ริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา เป็นหนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย ดูไม่สดใส โทรม เหมือนเหนื่อยล้า ซึ่งบางคนอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นใจและบุคลิกภาพได้ สำหรับคนที่กำลังเผชิญกับปัญหาเหล่านี้ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะสามารถแก้ไขได้ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ ที่สามารถช่วยลดริ้วรอย เติมเต็มร่องตาลึก ฟื้นคืนรอบดวงตาให้ดูสดใส
ใจรักษ์คลินิก มีแพทย์ที่พร้อมช่วยแก้ปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ขอบตาดำ และถุงใต้ตา โดยสามารถนัดหมาย เพื่อทำการประเมินและรักษาด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สาเหตุของปัญหารอบดวงตาและวิธีแก้ไข
ปัญหารอบดวงตา ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยรอบดวงตา ร่องใต้ตาลึก ถุงใต้ตา หรือใต้ตาดำ มีต้นเหตุมาจากการสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวหนังรอบดวงตา ซึ่งเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ ทั้งเรื่องของอายุที่เพิ่มมากขึ้น รวมไปถึงการสืบทอดพันธุกรรม โรคภูมิแพ้ หรือการใช้สายตาอย่างหนัก จนทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาหย่อนคล้อย ซึ่งสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ด้วยการมาหาแพทย์ที่ใจรักษ์คลินิก เพื่อทำการประเมิน และรักษาด้วยโปรแกรมเติมฟิลเลอร์ใต้ตาได้เลย
แต่สำหรับใครที่ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติม สามารถอ่านข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาด้านล่างได้เลย เรารวบรวมมาไว้ให้ครบ ทั้งขั้นตอนการฉีด การเตรียมตัวก่อน-หลังรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้ พร้อมรีวิวโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตาที่ใจรักษ์คลินิก รับรองว่าคุณจะรู้จักโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามากยิ่งขึ้น
รีวิวโปรแกรมเติมฟิลเลอร์ใต้ตาที่ใจรักษ์คลินิก
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
โปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ?
โปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การฉีดสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyaluronic Acid) หรือที่เรียกว่า “HA” เข้าไปที่บริเวณใต้ดวงตา เพื่อเติมเต็มผิวหนังบริเวณรอบดวงตาให้เต็มขึ้น โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ช่วยแก้ใต้ตาดำ และปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ได้อย่างตรงจุด สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังฉีด
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา VS โปรแกรมฉีดไขมันใต้ตาต่างกันอย่างไร ?
หัตถการเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมี 2 วิธีหลัก คือ โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและโปรแกรมฉีดไขมันใต้ตา แม้ทั้งสองวิธีจะช่วยเติมเต็มร่องตาลึกได้เช่นเดียวกัน แต่ก็ต่างกันในหลายด้าน มาทำความเข้าใจแต่ละวิธีกันเลย
ข้อเปรียบเทียบ | โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา | โปรแกรมฉีดไขมันใต้ตา |
วัสดุที่ใช้ | สาร Hyaluronic Acid (HA) | ไขมันจากร่างกายของผู้รับการรักษา |
ขั้นตอนการทำ | • ทำได้ทันที• ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก• ใช้เวลาทำน้อย | • ต้องดูดไขมันก่อน• ต้องปั่นแยกสเต็มเซลล์• มีขั้นตอนยุ่งยาก |
การเห็นผล | • เห็นผลชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์ | • ไม่เห็นผลชัดในครั้งแรก• ต้องทำ 2-3 ครั้งเพื่อผลลัพธ์ที่ดี |
ระยะเวลาที่ผลลัพธ์คงอยู่ | 6-24 เดือน | ประมาณ 1 ปี |
อาการบวม | • บวม 2-3 วัน• เข้าที่ใน 1-2 สัปดาห์ | • บวม 1-2 สัปดาห์• เข้าที่ใน 2-3 เดือน |
ความเสี่ยง | • ไม่เป็นอันตราย หากฉีดโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ | • เสี่ยงต่อการอุดตันในหลอดเลือด |
ข้อดี | • ไม่ต้องพักฟื้นนาน• แก้ปัญหาได้ครอบคลุม• สามารถสลายได้หากไม่พอใจ• ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น | • ใช้ไขมันตัวเอง ลดการแพ้• ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ• ไม่มีสารแปลกปลอม |
ข้อเสีย | • ผลลัพธ์ไม่ถาวร• อาจเกิดการแพ้ได้หากไม่ใช่ฟิลเลอร์แท้ | • มีแผลจากการดูดไขมัน• ขั้นตอนยุ่งยาก• ผิวอาจไม่เรียบในภายหลัง• ไม่สามารถแก้ปัญหาที่เกิดจากกระดูก |
ราคา | ราคาต่อครั้งสูงกว่า แต่เห็นผลชัดเจน | ราคาต่อครั้งถูกกว่า แต่อาจต้องทำหลายครั้ง |
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ? รวมสิ่งที่ควรรู้ก่อนทำ
1. อันตรายของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เนื่องจากดวงตาเป็นอวัยวะที่สำคัญ และหลายคนที่อยากเข้าใช้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อช่วยแก้ตาคล้ำ ลดริ้วรอย หรือเติมเต็มร่องตาลึก จึงมีความกังวลอย่างมาก ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาข้อมูล และเลือกให้ดีก่อนที่จะตัดสินใจ
โดยควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับคลินิกที่จะไปใช้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา โดยจะต้องเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเท่านั้น รวมถึงมีใบประกอบการถูกต้อง และมีรีวิวที่ได้ผลลัพธ์ที่ดี
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ฟิลเลอร์ที่ใช้จะต้องดูอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นฟิลเลอร์แท้เท่านั้น เพราะฟิลเลอร์แท้จะสามารถสลายได้หมด ไม่มีสารตกค้าง และไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย
เมื่อฟิลเลอร์แท้ละลายออก บริเวณที่ฉีดจะเหลือเป็นอีลาสตินและคอลลาเจนที่ร่างกายสร้างขึ้นมาแทนที่ ทำให้ผลลัพธ์หลังจากที่ฟิลเลอร์สลายแล้วจะดีกว่าตอนรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ โดยจะมีความชุ่มชื้นกว่าตอนแรก เหมือนมีน้ำมาหล่อเลี้ยงผิวบริเวณนั้น
เนื่องจากฟิลเลอร์แท้มีราคาสูง จึงทำให้ฟิลเลอร์ปลอมที่ราคาต่ำกว่า ถูกนำเข้ามาใช้ ดังนั้นหากพบเจอคลินิกที่มีราคาถูกเกินจริง ไม่ควรเข้าไปใช้บริการ เพราะมีความเสี่ยงว่าจะเป็นฟิลเลอร์ปลอม ซึ่งฟิลเลอร์ปลอมนั้นก็มีหลากหลายรูปแบบ เช่น ซิลิโคนเหลว หากมีการฉีดเข้าไปนั้น จะทำให้เกิดอาการบวม อักเสบขั้นรุนแรง และร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้
2. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อเติมเต็มร่องตาลึก ลดริ้วรอยที่ไหนดี ?
การเลือกคลินิกที่มีแพทย์ผู้มีประสบการณ์ พร้อมมีใบประกอบการอย่างถูกต้องด้านการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อช่วยแก้ตาคล้ำ เติมเต็มร่องตาลึก ลดริ้วรอย เป็นสิ่งสำคัญ อีกทั้งยังควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และผลลัพธ์ที่ได้ออกมาไม่ผิดหวัง และไม่เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดี โดยคลินิกที่ได้มาตรฐานจะมีลักษณะดังนี้
- คลินิกที่ได้มาตรฐานจะต้องมีใบรับรอง น่าเชื่อถือ
- แพทย์มีประสบการณ์ และให้คำแนะนำที่ดี มีความชำนาญในการปรับรูปหน้าโดยการใช้ฟิลเลอร์
- คลินิกให้บริการด้วยฟิลเลอร์แท้ ได้มาตรฐาน
- ดูรีวิวที่มีความน่าเชื่อถือ เช่น Facebook เว็บไซต์คลินิก แหล่งที่เป็นการรีวิวจริง
3. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ต้องใช้กี่ CC และรุ่นไหนดี ?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อลดริ้วรอย เติมเต็มร่องตาลึก หรือแก้ปัญหาใต้ตาอื่น ๆ ปริมาณในการใช้จะมีหน่วยเป็น Cubic Centimeter หรือภาษาไทยเรียกว่า “ลูกบาศก์เซนติเมตร” แต่ที่นิยมจะใช้เรียกว่า CC (ซีซี)
ปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้ในการฉีดนั้นจะอยู่ระหว่าง 1-2 CC ต่อใต้ตาทั้งสองข้าง ปริมาณที่ชัดเจนนั้นขึ้นอยู่กับแพทย์จะพิจารณาเป็นรายบุคคล เพราะจะต้องดูจากพื้นฐานโครงสร้างของใบหน้าแต่ละคนซึ่งมีความแตกต่างกัน กรณีคนที่มีอายุมาก เนื้อเยื่อและโครงหน้ามีการยุบตัวลงไปเป็นร่องลึก ก็จะทำให้ต้องใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากกว่า ซึ่งจะใช้อยู่ที่ 2 CC ในบางกรณีต้องการเติมเพื่อให้หน้าดูเด็กและสดใสขึ้น หรือที่เรียกว่าดอลลี่อาย ซึ่งเป็นที่นิยมกันในขณะนี้ อาจจะใช้ฟิลเลอร์เพียง 1 CC เท่านั้น
รุ่นของฟิลเลอร์มีความแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับโครงหน้าของแต่ละบุคคล ซึ่งฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับฉีดบริเวณรอบดวงตา มีดังนี้
Restylane เป็นฟิลเลอร์ที่ได้มีการผลิตมาอย่างยาวนาน และเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ผลิตโดยบริษัทในประเทศสวีเดน ซึ่งผ่านการรับรองจาก FDA และกระบวนการผลิตมีการพัฒนากันมาอย่างต่อเนื่อง
ฟิลเลอร์ของ Restylane มีทั้งหมด 2 เทคโนโลยีขนาดโมเลกุล คือ NASHA technology และ OBT technology ทำให้มีคุณสมบัติที่สามารถฉีดได้ในหลากหลายบริเวณ และแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงไม่เป็นอันตรายอีกด้วย ไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคืองหรือแพ้
- NASHA technology หรือ Non-Animal Stabilized Hyaluronic Acid Technology เป็นฟิลเลอร์ที่มีความคงตัว ถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลาย เพราะไม่เป็นอันตราย และป้องกันอาการแพ้ เนื้อเจลของฟิลเลอร์มีขนาดเล็กและขนาดปานกลาง จึงทำให้มีคุณสมบัติในการดึงโมเลกุลน้ำเข้ามาเก็บไว้ หลังจากฉีดจะไม่มีอาการไหลไปตามบริเวณต่าง ๆ ทั้งยังทำให้ผิวชุ่มชื้น สามารถอยู่ได้ 6 เดือนถึง 1 ปี หรือบางรุ่นจะสามารถอยู่ได้ถึง 2 ปี โดยอ้างอิงจากผลวิจัยล่าสุด
- OBT Technology หรือ Optimal Balance Technology เป็นรุ่นที่ผลิตออกมาหลัง NASHA techology แต่ก็มีการเลือกนำไปใช้กันทั่วโลก เพราะเนื้อของฟิลเลอร์มีคุณสมบัติยืดหยุ่น มีความคงตัว สามารถจัดแต่งรูปทรงได้หลากหลาย เหมาะสำหรับแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และใช้เติมเต็มได้ดี
ข้อดีของโปรแกรมฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์
การฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตาด้วยสาร Hyaluronic Acid มีข้อดีหลายอย่างมาก เช่น
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ลดริ้วรอยใต้ตา เติมเต็มร่องตาลึก แก้ตาคล้ำ หรือถุงใต้ตา
- ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้นนาน
- Hyaluronic Acid เป็นสารที่พบได้ในร่างกายของมนุษย์ จึงทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
- Hyaluronic Acid เป็นสารที่อุ้มน้ำได้ดี ช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นให้กับผิว และทำให้ผิวเรียบเนียน
ข้อเสียของโปรแกรมฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์
แม้ว่าจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่การฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตาก็มีข้อเสียด้วยเช่นกัน ดังนี้
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ เป็นหัตถการที่มีราคาค่อนข้างสูง
- ผลลัพธ์ของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ไม่ถาวร โดยจะอยู่ได้ประมาณ 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และถ้าหากทำกิจกรรมที่สัมผัสความร้อนบ่อย ๆ เช่น ออกกำลังกาย ซาวน่า เลเซอร์หน้า รวมถึงพักผ่อนน้อย หรือดื่มน้ำน้อย ก็จะทำให้ฟิลเลอร์สลายไวมากขึ้น
- ฟิลเลอร์จะสลายได้ง่ายในคนที่มีอายุมาก และมีสภาพผิวที่หย่อนคล้อย
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตาอาจเป็นอันตรายได้ เช่น ฟิลเลอร์เป็นก้อนใต้ตา หรือตาบอด หากฉีดกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?
โปรแกรมฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ สามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาได้หลายอย่าง ดังนี้
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ลดริ้วรอย แก้ปัญหารอยตีนกา จะมีลักษณะเป็นเส้นบริเวณหางตาและรอบดวงตา ทำให้ดูแก่กว่าวัย นอกจากในคนที่มีอายุมากแล้ว ยังสามารถพบในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยได้ด้วย เช่น บางคนอาจจะเกิดเวลายิ้ม โดยจะขึ้นเป็นเส้นบริเวณหางตา ฟิลเลอร์ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาตรงนี้
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แก้ตาคล้ำ ขอบตาคล้ำ ที่เกิดจากเส้นเลือดและสีของกล้ามเนื้อ โดยในคนที่มีผิวหนังใต้ตาบางจะทำให้เห็นเส้นเลือดและสีของกล้ามเนื้อใต้ตาชัดเจน ซึ่งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณใต้ตาจะช่วยบังสีของกล้ามเนื้อ และทำให้รอยคล้ำดูจางลงได้
- แก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อย เป็นปัญหาที่มาพร้อมกับอายุที่เพิ่มมากขึ้น ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มผิวรอบดวงตาให้ดูเต่งตึงขึ้นได้
- โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เติมเต็มร่องตาลึก แก้ปัญหาเบ้าตาลึก ตาโหล ร่องใต้ตา อันเกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน หรือไขมันรอบดวงตาจากการที่อายุเพิ่มมากขึ้น ซึ่งโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์จะช่วยเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน และทำให้เบ้าตาดูตื้นขึ้นได้
ใครเหมาะกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?
ผู้ที่เหมาะกับโปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
- ผู้ที่มีปัญหาริ้วรอยใต้ตา ตาลึก ตาโหล ขอบตาดำ แล้วไม่อยากผ่าตัด
- ผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาใต้ตาจากพันธุกรรม
- ผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากลางาน
- ผู้ที่ต้องการดูแลรอบดวงตาให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้น
ใครไม่ควรรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ?
ผู้ที่ไม่เหมาะกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
- ผู้ที่มีถุงใต้ตาเทียมที่เกิดจากพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เช่น การอดนอน หรือการขยี้ตาบ่อย ๆ เพราะสามารถหายได้ด้วยตนเอง
- ผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ และอยู่ในภาวะให้นมบุตร
- ผู้ที่ใต้ตาหย่อนคล้อยมาก หรือถุงใต้ตาใหญ่มาก จนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์
- ผู้ที่มีอาการแพ้ Hyaluronic Acid
- ผู้ที่มีโรคติดต่อในบริเวณที่ฉีด เพราะอาจทำให้ติดเชื้อได้
ขั้นตอนของโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
สำหรับใครที่สนใจฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์แล้ว สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาแพทย์ที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย โดยขั้นตอนของโปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา มีดังนี้
- แพทย์ประเมินสภาพใบหน้าให้อย่างละเอียด พร้อมวางแผนการรักษาปัญหาที่คนไข้กังวล
- หากตรวจพบว่าปัญหาสามารถแก้ไขได้ด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ แพทย์ก็จะทำการฉีดให้เลย
- หลังจากรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
อาการแพ้ฟิลเลอร์และผลข้างเคียงจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ต่างกันอย่างไร ?
อาการแพ้ฟิลเลอร์ คือปฏิกิริยาที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid หรือยาชาที่ฉีดเข้าไป มักพบได้น้อยมากในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ได้มาตรฐาน โดยมีลักษณะ ดังนี้
- เกิดผื่นแดง คัน บวมมากผิดปกติ
- อาจมีไข้ร่วมด้วย
- เกิดขึ้นได้ทันทีหรือหลังฉีดไม่นาน
- ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์โดยเร็ว
- อาจจำเป็นต้องฉีดยาสลายฟิลเลอร์ออก
ผลข้างเคียงจากโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ คือผลที่เกิดขึ้นตามปกติหลังการฉีด เป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไปและหายได้เอง เช่น
- รอยแดงหรือรอยช้ำจากเข็มฉีด ประมาณ 3-7 วัน
- อาการบวมเล็กน้อย ประมาณ 2-3 วัน
- อาจมีรอยจ้ำเขียวเล็กน้อย
- รู้สึกตึงหรือไม่สบายผิวบริเวณที่ฉีด
- อาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 1-2 สัปดาห์
ทั้งนี้ หากใต้ตาดูเขียวคล้ำหลังการรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ (Tyndall effect) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ทางแสงที่เกิดเมื่อฟิลเลอร์ถูกฉีดตื้นเกินไป รวมถึงใช้ฟิลเลอร์ที่มีความเหนียวไม่เหมาะกับบริเวณใต้ตา หรือเทคนิคการฉีดที่ไม่เหมาะสม สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดน้ำยาสลายฟิลเลอร์ (Hyaluronidase)
เมื่อไรควรไปพบแพทย์
หากหลังจากเข้ารับบริการด้วยโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ที่ใต้ตาแล้ว มีอาการปวดมาก บวมแดง มีการติดเชื้อ หรือผิวหนังบริเวณที่ฉีดมีสีคล้ำ หรือมีสีซีด จะต้องไปพบแพทย์ เพราะอาจเป็นสัญญาณของการฉีดเข้าเส้นเลือด ซึ่งจะต้องรักษาด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ทันที
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ไหนดี ?
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์รอบดวงตานั้น จะต้องทำกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์พร้อมกับมีใบอนุญาตรับรอง เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญอยู่หลายเส้น หากเกิดความผิดพลาดก็อาจเสี่ยงทำให้ตาบอด เนื้อตาย หรือเป็นอัมพาตได้ ด้วยเหตุนี้การเลือกสถานที่รับโปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา จึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก
วิธีการเลือกคลินิก หรือโรงพยาบาล ให้บริการโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา ควรเลือกจาก 5 ปัจจัย ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จริง
- สามารถตรวจสอบประวัติแพทย์ที่ให้บริการผ่านฐานข้อมูลแพทยสภาได้
- สถานที่เข้ารับบริการได้มาตรฐานระดับสากล สะอาด มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งภาพรีวิวก่อนทำและหลังทำ
- มีราคาค่าบริการที่เหมาะสม ไม่สูง หรือต่ำกว่าคลินิก หรือโรงพยาบาลอื่น ๆ มากเกินไป
สำหรับใครที่สนใจโปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษากับแพทย์ที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย เราดูแลทุกเคสด้วยความใส่ใจ
ข้อควรปฏิบัติในการรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
1. การปฏิบัติตัวก่อนรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
เพื่อให้การเข้ารับบริการ ด้วยโปรแกรมฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ที่หลีกเลี่ยงจากอันตราย เรามีคำแนะนำในการเตรียมตัวมาฝาก ดังนี้
- งดรับประทานยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, ไดโคลฟีแนค, พอนสแตน, วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย, โสม, St. John’s wort และน้ำมันกระเทียม อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้เลือดหยุดไหลช้า และมีอาการบวมช้ำมากกว่าปกติ
- งดทายาชนิดผลัดเซลล์ผิว บริเวณที่จะฉีด อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา หรือกำลังรับประทานยารักษาโรคเป็นประจำ จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- งดการทำเลเซอร์ บริเวณที่ต้องการฉีด อย่างน้อย 3 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น อบซาวน่า หรือออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ควรศึกษาข้อมูลของคลินิกที่ต้องการเข้าใช้บริการ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ ประวัติแพทย์ และรีวิวโดยละเอียด
- ก่อนวันรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
2. การปฏิบัติตัวหลังจากรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
การดูแลตัวเองหลังรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังจากที่เข้ารับบริการด้วยโปรแกรมฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์แล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยแพทย์จะแนะนำให้ดูแลตัวเอง ดังนี้
- ในช่วง 12 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ งดแต่งหน้า และงดใช้ครีมบำรุงทุกชนิด
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การสัมผัสความร้อน และการถูหน้าแรง ๆ
- ในช่วง 1-2 วันแรก อาจมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ทำไฮฟู เลเซอร์หน้า ฉีดฝ้า หรือฉีดโบทูลินัมท็อกซิน บริเวณที่ฉีด
- ไม่ควรขยับใบหน้าเยอะในช่วง 3 วัน หลังจากทำ เพราะทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ผิดตำแหน่งได้
- หลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เพื่อยืดอายุของฟิลเลอร์ให้นานมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา กด หรือนวด บริเวณที่ฉีด แม้ว่าจะมีอาการคันมากก็ตาม
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูมากขึ้น มีอายุอยู่ได้นานมากขึ้น
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
นอกจากข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์แล้ว เรายังได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตามาด้วย ใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถดูคำถามและคำตอบได้ที่นี่เลย
1. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ทำให้ตาบอดจริงไหม
โปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการทำหัตถการที่มีความละเอียดซับซ้อนและต้องอาศัยความชำนาญอย่างมาก เพราะดวงตาเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญ อีกทั้งบริเวณรอบดวงตายังมีเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญหลายเส้นด้วย หากฉีดพลาดเข้าไปในเส้นเลือดใหญ่ก็อาจส่งผลให้ตาบอดได้
อย่างไรก็ตาม การฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์ ด้วยแพทย์ที่มีประสบการณ์ด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโอกาสตาบอดได้ และถึงแม้จะฉีดเข้าเส้นเลือด แพทย์ก็จะรู้ได้อย่างรวดเร็ว และฉีดสลายฟิลเลอร์ทันที จึงทำให้ไม่เป็นอันตราย
2. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ?
ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดใต้ตา จะขึ้นอยู่กับปัญหาใต้ตาและโครงสร้างใบหน้าของแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ 1-2 CC ต่อใต้ตาทั้งสองข้าง อย่างไรก็ตาม หากอยากทราบปริมาณที่ชัดเจน สามารถมาให้แพทย์ที่ใจรักษ์คลินิกประเมินได้เลย
3. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี ?
ที่ใจรักษ์คลินิกนั้น เราเลือกใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากประเทศสวีเดน ซึ่งเป็นฟิลเลอร์ที่มีการผลิตมาอย่างยาวนาน และเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย ผ่านการรับรองจาก FDA มี 2 เทคโนโลยีขนาดโมเลกุลที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ ได้แก่ NASHA technology และ OBT technology ทำให้มีคุณสมบัติที่สามารถฉีดได้ในหลากหลายบริเวณ เสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองได้น้อย
4. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากี่วันเห็นผล ?
โปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา จะเห็นผลลัพธ์ในช่วง 2-3 วันแรกจะมีอาการบวมช้ำหลังฉีด และจะค่อย ๆ เข้าที่เมื่อระยะเวลาผ่านไป โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดภายใน 2-3 สัปดาห์
5. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ถาวรไหม ?
ผลลัพธ์ของโปรแกรมฉีดใต้ตาด้วยฟิลเลอร์จะอยู่ได้ประมาณ 12-24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ และการดูแลสุขภาพร่างกายของแต่ละบุคคล
6. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม ?
ก่อนรับโปรแกรมฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตา แพทย์จะมีการทายาชาที่ใต้ตาก่อน ซึ่งจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บได้มาก ทำให้รู้สึกเจ็บในระดับเล็กน้อยเท่านั้น
7. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสลายได้ไหม ?
ในกรณีที่เป็นฟิลเลอร์แท้ในกลุ่ม Hyaluronic Acid สามารถฉีดสลายได้ด้วยเอนไซม์ Hyaluronidase (HYAL)
8. ฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นก้อนเกิดจากอะไร ?
ปัญหาฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นก้อนเกิดได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะแพทย์ที่ทำการฉีดขาดประสบการณ์ ปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดมากเกินไป รวมไปถึงฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดเป็นของปลอม แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ แต่หากมีอาการรุนแรงอาจจำเป็นต้องผ่าตัดเพื่อขูดเอาฟิลเลอร์ออก
9. โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไร ?
ราคาโปรแกรมฉีดเติมฟิลเลอร์ใต้ตา จะอยู่ที่ประมาณ 10,000-20,000 บาท
สรุปเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
โปรแกรมฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นการฉีดสารเติมเต็มในกลุ่ม Hyaluronic Acid เข้าไปบริเวณใต้ตา เพื่อเติมเต็มช่องว่างที่เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจน หรือไขมันจากสาเหตุต่าง ๆ ช่วยแก้ไขปัญหาร่องใต้ตา ตาลึก ตาโหล ถุงใต้ตา ให้ดูตื้นมากขึ้น หรือช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาดำจากสีกล้ามเนื้อ นับเป็นโปรแกรมฉีดใต้ตาที่ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว เพราะสาร Hyaluronic Acid เป็นสารที่พบได้ในร่างกายมนุษย์ เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย