การมีหน้าผากโหนกนูน เป็นทรง และรับกับใบหน้า จะช่วยเสริมสร้างบุคลิกให้ดูสดใส อ่อนเยาว์ อีกทั้งยังช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ทำมาค้าขายราบรื่น และมีคนมาอุปถัมภ์ด้วย สำหรับใครที่มีปัญหาหน้าผากเรียบแบน หน้าผากยุบ แล้วอยากทำหน้าผากให้โหนกนูนมากขึ้น ในบทความนี้ ใจรักษ์คลินิกจะพาไปทำความรู้จักกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก หนึ่งในวิธีฉีดหน้าผากโหนกนูนที่มีประสิทธิภาพ และเป็นที่นิยมในคนทั่วโลก
รู้จักการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ปรับโหงวเฮ้ง แก้หน้าผากยุบ หน้าผากเรียบแบน
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือการฉีดสารเติมเต็มในกลุ่มไฮยาลูรอนิกแอซิด (Hyarulonic Acid) เข้าไปที่หน้า เพื่อปรับรูปทรงหน้าผากให้ดูโหนกนูนขึ้น รับกับใบหน้าและจมูกมากขึ้น ช่วยแก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากเรียบแบนได้ โดยสารไฮยาลูรอนิกแอซิด เป็นสารที่สามารถพบได้ในร่างกายของมนุษย์ เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากนั้น หากฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง และใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้ ก็นับเป็นหนึ่งในการทำหัตถการที่มีความปลอดภัย สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์บริเวณหน้าผากที่ใจรักษ์คลินิก สามารถติดต่อนัดหมายปรึกษาแพทย์ อ่านข้อมูล หรือดูรีวิวฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากได้ที่บทความนี้เลย
รีวิวฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ใจรักษ์คลินิก
เลือกอ่านหัวข้อที่น่าสนใจเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากคืออะไร?
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก คือ การเสริมหน้าผากด้วย Filler ในกลุ่ม Hyaluronic Acid (HA) ซึ่งเป็นสารสังเคราะห์ที่เลียนแบบสารในร่างกายของมนุษย์ ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย และสามารถสลายได้เองโดยธรรมชาติ โดยสาร Hyaluronic Acid จะมีคุณสมบัติดูดซับน้ำจากเนื้อเยื่อบริเวณรอบ ๆ แล้วทำการขยายตัวขึ้น จึงสามารถช่วยปรับรูปทรงให้หน้าผากเต่งตึงขึ้น โหนกนูนขึ้น และดูมีน้ำมีนวลขึ้นนั่นเอง
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากดีไหม ช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง?
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก สามารถปรับรูปทรงหน้าผากได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องเจ็บตัว สามารถช่วยแก้ปัญหาหน้าผากยุบ หน้าผากเรียบแบน ร่องลึก และริ้วรอยบนหน้าผาก ที่ส่งผลให้ใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส นอกจากนี้ยังช่วยปรับโหงวเฮ้งในคนที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งในด้านการค้าขายและธุรกิจด้วย
เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับการผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคน
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากจะได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติมากกว่า ไม่ต้องเจ็บตัว ไม่ต้องพักฟื้น หากไม่พอใจในผลลัพธ์จะสามารถฉีดสลายได้ แต่เป็นผลลัพธ์ชั่วคราว สามารถอยู่ได้ประมาณ 18 – 24 เดือน ในขณะที่การผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยซิลิโคนจะสามารถอยู่ได้ตลอดชีวิต สามารถปรับแต่งรูปทรงหน้าผากได้มากกว่า แต่จะไม่สามารถแก้ไขได้ ต้องผ่าตัดเปลี่ยนซิลิโคนเสริมหน้าผากออกเท่านั้น และอาจได้ผลลัพธ์ที่ดูไม่เป็นธรรมชาติ
เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากกับการฉีดไขมันหน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากและการฉีดไขมันหน้าผาก เป็นการฉีดสารเติมเต็มเพื่อปรับรูปทรงหน้าผากเหมือนกัน แต่จะมีข้อแตกต่างกัน ดังนี้
- การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก จะสามารถกำหนดรูปทรงได้แม่นยำมากกว่า และเห็นผลลัพธ์หลังทำทันที 100% ไม่จำเป็นต้องดูว่ามีเซลล์ไขมันสลายไปเท่าไรเหมือนการฉีดไขมันที่หน้าผาก
- การฉีดไขมันที่หน้าผาก จะใช้เซลล์ไขมันของตนเองมาฉีด จึงเสี่ยงต่อการเกิดอาการแพ้ได้น้อย เพราะเป็นสารจากร่างกายตัวเอง แต่จะได้ผลลัพธ์อยู่ที่ประมาณ 60-80% ต่อเซลล์ไขมันที่ฉีดเข้าไปเท่านั้น จะมีเซลล์ไขมันบางส่วนที่ตายไป จึงทำให้กำหนดรูปทรงได้ยากกว่า
ข้อดี – ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากนั้น เป็นหัตถการที่สามารถปรับรูปทรงหน้าผากได้อย่างรวดเร็ว โดยที่ไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด และไม่ต้องเจ็บตัว สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยร่องลึกบนหน้าผาก หน้าผากแบน หรือหน้าผากยุบ และถ้าหากไม่ชอบผลลัพธ์ก็สามารถฉีดสลายได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากก็มีข้อเสียหลายข้อเช่นกัน เช่น ให้ผลลัพธ์ชั่วคราว เป็นการทำหัตถการที่มีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง และมีโอกาสเสี่ยงต่อการเจอฟิลเลอร์ปลอมได้เยอะมาก
การเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
เพื่อให้การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากมีความปลอดภัยมากขึ้น เรามีคำแนะนำในการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์มาฝาก ดังนี้
- งดรับประทานยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด เช่น แอสไพริน, ไอบูโพรเฟน, ไดโคลฟีแนค, พอนสแตน, วิตามินอี, น้ำมันปลา, ใบแปะก๊วย, โสม, St. John’s wort และน้ำมันกระเทียม อย่างน้อย 1 สัปดาห์ เพราะจะทำให้เลือดหยุดไหลช้าและมีอาการบวมช้ำมากกว่าปกติ
- งดทายาชนิดผลัดเซลล์ผิวบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์
- หากมีโรคประจำตัว มีประวัติแพ้ยา หรือกำลังรับประทานยารักษาโรคเป็นประจำ จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
- งดการทำเลเซอร์บริเวณที่ต้องการฉีดฟิลเลอร์ อย่างน้อย 3 วัน
- งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น อบซาวน่า หรือออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำ
- ควรศึกษาข้อมูลของคลินิกที่ต้องการเข้าใช้บริการ ผลิตภัณฑ์ ประวัติคุณหมอ และรีวิวโดยละเอียด
- ก่อนวันฉีดฟิลเลอร์ ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่างครัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยคุณหมออาจแนะนำให้ดูแลตัวเอง ดังนี้
- ในช่วง 12 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ งดแต่งหน้า และงดใช้ครีมบำรุงทุกชนิด
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การสัมผัสความร้อน และการถูหน้าแรง ๆ
- ในช่วง 1 – 2 วันแรก อาจมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ทำ HIFU เลเซอร์หน้า ฉีดฝ้า หรือฉีดโบทูลินัมท็อกซิน บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เพื่อยืดอายุของฟิลเลอร์ให้นานมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา กด หรือนวด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ แม้ว่าจะมีอาการคันมากก็ตาม
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูมากขึ้น มีอายุอยู่ได้นานมากขึ้น
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก
หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากแล้ว ควรปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่างครัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาและป้องกันการเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย โดยคุณหมออาจแนะนำให้ดูแลตัวเอง ดังนี้
- ในช่วง 12 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการนอนราบ งดแต่งหน้า และงดใช้ครีมบำรุงทุกชนิด
- ในช่วง 48 ชั่วโมงแรก ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก การสัมผัสความร้อน และการถูหน้าแรง ๆ
- ในช่วง 1 – 2 วันแรก อาจมีอาการปวด สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้
- ในช่วง 2 สัปดาห์แรก ควรหลีกเลี่ยงการทำหัตถการอื่น ๆ เช่น ทำ HIFU เลเซอร์หน้า ฉีดฝ้า หรือฉีดโบทูลินัมท็อกซิน บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
- หลีกเลี่ยงการเข้าซาวน่า อบไอน้ำ หรือการล้างหน้าด้วยน้ำร้อน เพื่อยืดอายุของฟิลเลอร์ให้นานมากขึ้น
- หลีกเลี่ยงการแตะ แกะ เกา กด หรือนวด บริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ แม้ว่าจะมีอาการคันมากก็ตาม
- ดื่มน้ำมาก ๆ อย่างน้อย 2 ลิตรต่อวัน เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดไปอุ้มน้ำและฟูมากขึ้น มีอายุอยู่ได้นานมากขึ้น
ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก
สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก ปรับรูปทรงหน้าผากให้โหนกนูนเต่งตึง สามารถนัดหมายเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย โดยขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณขมับ มีดังนี้
- คุณหมอประเมินสภาพใบหน้าให้อย่างละเอียด พร้อมวางแผนการรักษาปัญหาที่คนไข้กังวล
- หากตรวจพบว่าปัญหาสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดฟิลเลอร์ คุณก็จะทำการฉีดฟิลเลอร์ให้เลย
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
ผลข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง ดังนี้
- อาการบวมช้ำและแดงบริเวณที่ฉีด เกิดจากเข็มและเนื้อของฟิลเลอร์ เป็นอาการที่ไม่เป็นอันตราย สามารถหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน
- รอยเข็มที่เกิดจากฉีดฟิลเลอร์ จะค่อย ๆ จางลงภายใน 2 – 3 วัน
- รู้สึกคันบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงการแตะ การเกา หรือกดนวดบริเวณนั้นโดยเด็ดขาด
- ฟิลเลอร์แล้วเป็นก้อน อาจเกิดจากการขาดความชำนาญของแพทย์ เลือกใช้ชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับสภาพผิว สามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์
เมื่อไหร่ควรไปพบแพทย์
หากเกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย เช่น ปวด แดง มีการติดเชื้อ ผิวหนังบริเวณที่ฉีดมีสีคล้ำ ซีด และรู้สึกปวดมาก จะต้องไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณของการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด ซึ่งจะต้องรักษาด้วยการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยเอ็นไซม์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyarulonidase) หรือ “HYAL” ทันที
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
นอกจากข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากแล้ว เรายังได้รวบรวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์หน้าผากมาให้ด้วย ใครที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก สามารถดูคำถามและคำตอบได้ที่นี่เลย
1. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากราคาเท่าไร?
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ และปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้ โดยจะมีราคาอยู่ที่ประมาณ 20,000 – 60,000 บาท สำหรับใครที่อยากทราบราคาที่แน่นอน สามารถเข้ามาประเมินกับคุณหมอได้ที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย
2. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากที่ไหนดี?
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากนั้น จะต้องทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์โดยเฉพาะ เพราะเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญอยู่หลายเส้น หากเกิดความผิดพลาดก็อาจเสี่ยงทำให้ตาบอด เนื้อตาย หรือเป็นอัมพาตได้ ด้วยเหตุนี้การเลือกสถานที่ฉีดฟิลเลอร์ที่บริเวณขมับจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก
วิธีการเลือกคลินิก หรือโรงพยาบาลฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก ควรเลือกจาก 5 ปัจจัย ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จริง มั่นใจว่าเป็นของแท้อย่างแน่นอน
- สามารถตรวจสอบประวัติแพทย์ที่ให้บริการผ่านฐานข้อมูลแพทยสภาได้
- สถานที่เข้ารับบริการได้มาตรฐานระดับสากล สะอาด ปลอดภัย มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งภาพรีวิวก่อนทำและหลังทำ
- มีราคาค่าบริการที่เหมาะสม ไม่สูง หรือต่ำกว่าคลินิก หรือโรงพยาบาลอื่น ๆ มากเกินไป
สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษากับแพทย์ที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์คอยดูแลทุกเคสด้วยความใส่ใจ มั่นใจได้เลยว่า จะได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
3. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากยี่ห้อไหนดี?
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผาก ควรเลือกฟิลเลอร์ชนิดที่มีเนื้อฟูและทนต่อแรงขยับได้ดี เช่น Restylane Perlane lyft, Restylane Vital light, Restylane Volyme, Restylane Vital, Restylane Classic หรือ E.P.T.Q. S500 เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ควรเข้ามาให้คุณหมอประเมินสภาพผิวอีกครั้งจะดีที่สุด เพราะแต่ละคนจะเหมาะกับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แตกต่างกัน
4. ฉีดฟิลเลอร์หน้าผากบวมกี่วัน?
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากจะมีอาการบวมประมาณ 2 – 3 วัน และสามารถหายได้เอง
5. ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากกี่วันเห็นผล?
การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากจะเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ อย่างไรก็ตาม ในช่วง 2 – 3 วันแรกจะยังมีอาการบวมอยู่ ซึ่งจะค่อย ๆ ยุบลง และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 1 – 2 สัปดาห์
6. ฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากอยู่ได้นานไหม?
ระยะเวลาของฟิลเลอร์จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้ และการดูแลร่างกายของแต่ละบุคคล แต่โดยส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ได้นานประมาณ 18 – 24 เดือน
สรุปเรื่องการฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์หน้าผากเป็นการปรับรูปทรงหน้าผากให้เต่งตึง โหนกนูน และเข้ารูปมากขึ้น โดยการฉีดสารเติมเต็มในกลุ่ม Hyarulonic Acid เข้าไป ซึ่งเป็นสารที่เลียนแบบสารในร่างกายมนุษย์ สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ที่หน้าผากนั้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปทรงหน้าผาก แต่ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากพักฟื้น เพราะหลังฉีดแล้วจะเห็นผลลัพธ์ทันที สามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์ ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ และใช้ฟิลเลอร์ที่เป็นของแท้เท่านั้น