ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ เปลี่ยนริมฝีปากให้อิ่มฟู เซ็กซี่

การเตรียมตัวก่อนเข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ

การเตรียมตัวอย่างเหมาะสม จะช่วยลดโอกาสในการเกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ จากการฉีดปากสายฝอ และทำให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยวิธีการเตรียมตัวก่อนฉีดปากสายฝอ มีดังนี้

• งดรับประทานยา หรือผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่มีฤทธิ์ต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนทำหัตถการ เช่น แอสไพริน ไอบูโพรเฟน ไดโคลฟีแนค พอนสแตน วิตามินอี น้ำมันปลา ใบแปะก๊วย โสม St. John’s wort น้ำมันกระเทียม เพราะจะทำให้เลือดหยุดไหลช้า และมีอาการบวมช้ำมากกว่าปกติ
• งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น ซาวน่า หรือออกกำลังกายหนัก อย่างน้อย 24 ชั่วโมงก่อนทำหัตถการ
• งดสครับปาก อย่างน้อย 3 วันก่อนทำหัตถการ
• หากมีโรคประจำตัว ยาที่รับประทานประจำ หรือมีประวัติแพ้ยา จะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน
• ควรพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรอดนอน ก่อนวันทำหัตถการ

การดูแลตนเองหลังฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ

การดูแลตนเองตามคำที่แพทย์แนะนำอย่างเคร่งครัด จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงที่อันตราย ช่วยให้ผลการรักษามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และทำยืดอายุของฟิลเลอร์ให้นานขึ้นได้ โดยแนวทางการดูแลตนเองหลังฉีดปากสายฝอ มีดังนี้

• ดื่มน้ำให้มาก ๆ อย่างน้อย 2 – 3 ลิตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการอุ้มน้ำของฟิลเลอร์ ทำให้ฟิลเลอร์มีอายุนานมากขึ้น
• หากมีอาการปวด อาการบวม สามารถรับประทานยาตามที่แพทย์สั่งเพื่อบรรเทาอาการปวดได้
• ในช่วง 3 – 4 ชั่วโมงแรกหลังฉีด จะมีอาการตึง ๆ บริเวณที่ฉีด สามารถเม้มปาก หรือประคบเย็นเพื่อบรรเทาอาการได้
• หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เครื่องดื่มร้อน เพราะจะทำให้เกิดอาการบวมและอักเสบได้
• หลีกเลี่ยงการบีบ นวด จับ บริเวณริมฝีปาก เพราะจะทำให้ฟิลเลอร์เสียรูปทรงได้
• หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก เพราะจะทำให้ปากเสียรูปทรงได้

ในช่วงแรกที่ฉีดปากสายฝอเสร็จนั้น จะมีรอยเข็มแดง ๆ หรือรอยช้ำเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งไม่ต้องกังวลไป เพราะเป็นอาการที่ไม่อันตราย สามารถหายได้เองภายใน 2 – 3 วัน แต่ถ้ามีอาการปวด บวม แดง มากผิดปกติ หรือสีผิวหนังบริเวณที่ฉีดเปลี่ยนไปเป็นสีซีด เป็นสีน้ำตาล หรือดำโดยที่ไม่ใช่รอยเข็ม หรือรอยเขียวช้ำ นั่นอาจเป็นสัญญาณของการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่เป็นอันตราย ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการรักษาทันที

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอใช้กี่ CC?

หากเป็นการฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปทรงปากทั่วไป จะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 1 CC แต่สำหรับปากสายฝอนั้น จะเน้นฉีดให้ดูอวบอิ่มเป็นพิเศษ ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 2 CC

ฟิลเลอร์ปากสายฝออยู่ได้นานแค่ไหน?

ระยะเวลาของฟิลเลอร์นั้น ขึ้นอยู่กับแต่ละยี่ห้อและรุ่นที่เลือกใช้ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังจากฉีดฟิลเลอร์ โดยทั่วไปจะคงอยู่ที่ 6-8 เดือน ผู้ที่ได้รับการฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่ทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วขึ้น เช่นการทานอาหารร้อนจัด จะทำให้ฟิลเลอร์สลายเร็วกว่าอายุของฟิลเลอร์ได้

ฟิลเลอร์ปากสายฝออันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ เป็นการทำหัตถการที่ค่อนข้างอันตราย เพราะริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดฝอยขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญ อาจทำให้เกิดปัญหาอย่างการฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด และทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายตามมาได้ ด้วยเหตุนี้จึงควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการฉีดปากสายฝอโดยเฉพาะ เลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ที่ไม่ได้มาตรฐาน และฉีดในสถานพยาบาลที่สะอาด ปลอดภัย ได้รับมาตรฐานในระดับสากล

ฟิลเลอร์ปากสายฝอราคาเท่าไร?

ราคาการฉีดปากสายฝอจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ ปริมาณของฟิลเลอร์ที่ใช้ และความชำนาญของแพทย์ โดยจะมีราคาประมาณ 9,900 – 30,000 บาท

ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอที่ไหนดี?

การเลือกคลินิก หรือโรงพยาบาลที่ฉีดปากสายฝอนั้น ควรเลือกจาก 5 ปัจจัยหลัก ได้แก่

• ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จริง มั่นใจว่าเป็นของแท้อย่างแน่นอน
• สามารถตรวจสอบประวัติแพทย์ที่ให้บริการผ่านฐานข้อมูลแพทยสภาได้
• สถานที่เข้ารับบริการได้มาตรฐานระดับสากล สะอาด ปลอดภัย มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง
• มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งภาพรีวิวก่อนทำและหลังทำ
• มีราคาค่าบริการที่เหมาะสม ไม่สูง หรือต่ำกว่าคลินิก หรือโรงพยาบาลอื่น ๆ มากเกินไป

สำหรับใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปทรงปาก ฉีดปากสายฝ. สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษากับแพทย์ที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดฟิลเลอร์คอยดูแลทุกเคสด้วยความใส่ใจ มั่นใจได้เลยว่า จะได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด

สรุปเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ

การฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอจะแตกต่างจากการฉีดฟิลเลอร์ปากทั่ว ๆ ไปตรงที่จะใช้ฟิลเลอร์ปริมาณมากกว่าปกติ เพื่อให้เนื้อริมฝีปากดูเต็ม และมีรูปทรงที่ชัดเจนขึ้น ด้วยเหตุนี้จึงควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง เพราะริมฝีปากเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดฝอยเยอะ หากฉีดโดยแพทย์ที่ไม่เชี่ยวชาญก็อาจทำให้เสี่ยงต่อการฉีดเข้าเส้นเลือดได้