รู้ไหมว่าการขาดอีลาสตินในชั้นผิว คือหนึ่งในต้นเหตุสำคัญที่ทำให้ผิวหน้าเหี่ยวย่น ไม่กระชับ และแก่ก่อนวัยอันควร แล้วทำไม Elastin ถึงมีความสำคัญต่อความยืดหยุ่นของผิว รวมถึงถ้าต้องการเสริมสร้างอีลาสตินให้กับผิวต้องทำอย่างไร มาไขข้อสงสัยทั้งหมดนี้กัน
อีลาสตินคืออะไร ? ทำไมถึงสำคัญ ?
อีลาสติน (Elastin) คือโปรตีนชนิดหนึ่งซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างความยืดหยุ่นให้แก่เนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นหลอดเลือด ปอด เส้นเอ็น และกล้ามเนื้อหัวใจ รวมไปถึงผิวหนัง ทำให้เนื้อเยื่อเหล่านี้สามารถยืดและหดกลับไปได้โดยไม่เสียรูปทรง
โดยสารสำคัญชนิดนี้ มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราหลายด้าน ซึ่งสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ข้อหลัก ๆ คือ
- สร้างความยืดหยุ่น โดยจะทำให้อวัยวะต่าง ๆ สามารถคืนตัวได้รวดเร็วเมื่อถูกขยายหรือบีบ ที่สำคัญจะช่วยให้ผิวหนังไม่เกิดริ้วรอยได้ง่าย และช่วยให้ผิวเรียบเนียนอยู่เสมอ
- ช่วยในการทำงานของอวัยวะภายใน เช่น ปอด หลอดเลือด และหัวใจ ให้สามารถขยายและหดตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- รักษาความอ่อนเยาว์ของผิว เมื่อมีอีลาสตินในปริมาณที่เพียงพอ ผิวจะดูอ่อนเยาว์ เต่งตึง และมีความยืดหยุ่นดี พร้อมชะลอการเกิดริ้วรอยและรอยย่นบนใบหน้า
ปัจจัยที่ทำให้ Elastin เสื่อมสภาพ
ปัจจัยที่กระตุ้นให้อีลาสตินเสื่อมสภาพ มีดังนี้
- อายุที่เพิ่มมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพในการผลิตอีลาสตินของร่างกาย จึงทำให้มีปริมาณลดน้อยลง
- รังสี UV จากแสงแดด เป็นตัวการสำคัญที่ทำลายโครงสร้างของอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวหนังเสียความยืดหยุ่นและเกิดริ้วรอยก่อนวัย
- มลภาวะ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละออง ควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หรือสารเคมีที่ฟุ้งกระจายอยู่ในอากาศ ล้วนแต่เป็นปัจจัยที่ทำลายอีลาสติน และกระตุ้นให้เซลล์ผิวหนังเสื่อมสภาพเร็วยิ่งขึ้น
- การสูบบุหรี่ เพราะสารพิษในบุหรี่ไม่เพียงแต่ทำลายสุขภาพร่างกายโดยรวมเท่านั้น แต่ยังทำลายอีลาสตินในผิวหนังด้วย ส่งผลทำให้ผิวเหี่ยวย่นได้เร็วขึ้น
- การรับประทานน้ำตาลมากเกินไป เนื่องจากจะทำให้เกิดกระบวนการไกลเคชัน (Glycation) ซึ่งทำลายโครงสร้างของอีลาสตินและคอลลาเจนในชั้นผิว
วิธีชะลอการเสื่อมสภาพของ Elastin
การดูแลรักษาผิวหน้าอย่างเหมาะสม จะช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของ Elastin ในผิวหนังของเราได้ ซึ่งมีวิธีที่สามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้
- ทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน แม้ไม่ได้ออกไปข้างนอกบ้าน หรือในวันที่ท้องฟ้าครึ้ม โดยให้เลือกใช้ที่มีสาร SPF อย่างน้อย 30 เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV
- ทามอยส์เจอไรเซอร์ โดยเลือกใช้ที่มีส่วนผสมของวิตามินซี วิตามินอี และสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ เพื่อช่วยปกป้องและฟื้นฟูอีลาสตินในชั้นผิว
- รับประทานน้ำตาลให้น้อยลง เพื่อลดการเกิดกระบวนการไกลเคชัน ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของอีลาสติน
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ อุดมไปด้วยวิตามินซี วิตามินอี และโอเมก้า-3 ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยในการเสริมสร้างและรักษาอีลาสติน
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้กับผิวและช่วยในการขับสารพิษ
- งดสูบบุหรี่ เพื่อลดโอกาสที่สารเคมีต่าง ๆ ในบุหรี่จะเข้าไปทำลายเซลล์ต่าง ๆ ที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพ
- การออกกำลังกาย จะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ซึ่งส่งผลดีต่อการผลิตอีลาสตินและคอลลาเจนในชั้นผิว รวมถึงอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย
วิธีแก้ปัญหาผิวเหี่ยวย่นไม่กระชับจากการขาด Elastin
นอกจากการดูแลรักษาผิวหน้าเพื่อยับยั้งการเสื่อมสภาพของ Elastin แล้ว สำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าเหี่ยวย่น มีริ้วรอย ไม่กระชับ สามารถฟื้นฟูและคืนความอ่อนเยาว์ให้กลับคืนมาด้วยการทำหัตถการเหล่านี้
นวดยกกระชับ
การนวดยกกระชับช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด เพื่อทำให้เกิดการสร้างอีลาสตินและคอลลาเจนในชั้นผิว นับว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือทางการแพทย์แต่อย่างใด เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มมีปัญหาริ้วรอย และผิวหย่อนคล้อยเล็กน้อย รวมถึงต้องการวิธีที่เป็นธรรมชาติ เจ็บตัวน้อยสุด
ฉีดโบท็อกซ์
แม้ว่าการฉีดโบท็อกซ์จะไม่ได้ช่วยเพิ่มอีลาสตินโดยตรง แต่จะช่วยลดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อที่ทำให้เกิดริ้วรอยได้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และรอบดวงตา โดยผลลัพธ์มักเห็นได้ชัดเจนภายใน 3-7 วันหลังการรักษา และคงอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์
ในส่วนของการฉีดฟิลเลอร์ จะช่วยเติมเต็มร่องลึกและเพิ่มความสมดุลให้แก่ใบหน้า ทำให้ผิวดูเต่งตึงขึ้น เหมาะสำหรับการแก้ไขปัญหาร่องแก้มลึก ริ้วรอยรอบปาก และการปรับรูปริมฝีปาก คาง โดยผลลัพธ์จะเห็นได้ทันทีหลังการรักษา และอยู่ได้นาน 6-18 เดือนขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ และการดูแลของผู้ฉีดเอง
ฉีด Sculptra
หากให้แนะนำหัตถการที่สามารถลดเลือนริ้วรอย และเพิ่มความกระชับให้แก่ผิวโดยตรง คงต้องยกให้การฉีด Sculptra เนื่องจากเป็นการรักษาที่จะไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิวหนัง พร้อมช่วยปรับโครงสร้างผิวหน้าให้กลับมาเต่งตึง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย ขาดสมดุล และต้องการผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังการรักษา และสามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี
ทำเลเซอร์
การรักษาด้วยเลเซอร์มีอยู่ด้วยกันหลายประเภท เช่น CO2 Fractional, Erbium Laser และ Picosecond Laser เหมาะสำหรับการรักษาริ้วรอย รอยดำ และการกระตุ้นอีลาสติน รวมถึงคอลลาเจน เพื่อการปรับสภาพของโครงสร้างผิวโดยรวม ทำให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง อ่อนเยาว์ขึ้น
RF (Radio Frequency)
อีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือการใช้เทคโนโลยี RF ใช้คลื่นความถี่วิทยุในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน ช่วยให้ผิวกระชับขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง ผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในช่วง 2-3 เดือนหลังการรักษา และควรทำอย่างต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Ultherapy
สำหรับ Ultherapy เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวนด์เพื่อยกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นลึก เหมาะสำหรับการแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิวบริเวณแก้ม คอ โดยผลลัพธ์จะเห็นได้อย่างชัดเจนภายใน 2-3 เดือนหลังการรักษา และสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
Thermage
Thermage เป็นอีกหนึ่งวิธีการที่ใช้คลื่นความถี่วิทยุเพื่อกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวทั่วใบหน้า โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ปรากฏขึ้นในช่วง 2-6 เดือนหลังการรักษา และสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
HIFU
วิธีการสุดท้ายที่อยากแนะนำคือ การทำ HIFU (High-Intensity Focused Ultrasound) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง เพื่อยกกระชับผิวและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสติน เหมาะสำหรับการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยปานกลางถึงมาก โดยเฉพาะบริเวณแก้มและคอ โดยผลลัพธ์จะเห็นได้ชัดเจนภายใน 3-6 เดือนหลังการรักษา และสามารถอยู่ได้นานถึง 1-2 ปี
ในการจะแก้ปัญหาริ้วรอย ผิวหย่อนคล้อยนั้น จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสม ซึ่งขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพผิวปัจจุบัน อายุ ความรุนแรงของปัญหา และความต้องการส่วนตัว ดังนั้น การปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านดูแลผิวหนังและความงามจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้ได้แผนการรักษาเฉพาะบุคคลมากที่สุด
สำหรับคนที่ต้องการจบปัญหาผิวหน้าเหี่ยวย่นหย่อนคล้อย จากการเสื่อมสภาพของอีลาสติน ด้วยการฉีด Sculptra ยกกระชับใบหน้า Jairuk Clinic พร้อมให้บริการ หากสนใจสามารถเข้ารับการ Consult หรือนัดหมายทำหัตถการโดยทีมแพทย์ชำนาญการได้ที่
สาขาเกษตรนวมินทร์ โทร. 062-848-7799
สาขางามวงศ์วาน โทร. 093-636-5153
สาขาราชเทวี โทร. 062-747-1222
ข้อมูลอ้างอิง
- เมื่อผิวชรา ตอนที่ 1 … ทำไมผิวหนังคนเราต้องแก. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/atrama/sites/default/files/public/pdf/column/@Rama12_E04.pdf
- Elastin: What to Know. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 จาก https://www.webmd.com/skin-problems-and-treatments/elastin-what-to-know
- What is Elastin?. สืบค้นเมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 จาก https://www.news-medical.net/life-sciences/What-is-Elastin.aspx
Why Jairuk Clinic
เราเป็นคลินิคดูแลความงามครบวงจร ด้วยอุดมการณ์ที่จะมอบบริการที่ดีที่สุดให้ผู้เข้ารับบริการดูดีมากที่สุด
ในแบบที่คงความเป็นตัวของคุณเอง ช่วยเสริมความมั่นใจในแบบที่เป็นธรรมชาติ เน้นการแก้ไขปัญหาเฉพาะบุคคล
ที่ตอบโจทย์ผู้เข้ารับบริการที่มีปัญหารูปหน้าแตกต่างกันออกไป ไม่มีการขายคอร์สเกินความจำเป็นให้กังวลใจ