แจกวิธีกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้า แก้ปัญหาผิวแก่ก่อนวัย

แจกวิธีกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้า แก้ปัญหาผิวแก่ก่อนวัย

ผู้หญิงผิวหน้าสวยกระจ่างใสแลดูอ่อนกว่าวัย

หลายคนคงพอรู้อยู่แล้วว่าปัญหาริ้วรอยก่อนวัย ผิวหน้าไม่กระชับ แลดูเหี่ยวย่นไม่สดใส เกิดจากการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งมีสาเหตุมาจากหลายปัจจัย แล้วถ้าไม่อยากให้หน้าแก่ก่อนวัย แถมมีผิวที่ยืดหยุ่นแข็งแรงต้องทำอย่างไร เราจะพาไปรู้ถึงต้นเหตุที่ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจน พร้อมวิธีกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้า เพื่อสุขภาพผิวที่อ่อนกว่าวัยมาแนะนำกัน

สาเหตุที่ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจน

คอลลาเจน คือโปรตีนซึ่งเป็นส่วนประกอบของโครงสร้างผิวหนัง มีหน้าที่ในการสร้างความแข็งแรง และรักษาความยืดหยุ่นของผิว เมื่อคอลลาเจนเสื่อมสภาพ หรือเกิดการสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว จะส่งผลให้เกิดผิวเหี่ยวย่น ไม่แข็งแรง รวมถึงเกิดริ้วรอยได้ โดยสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผิวสูญเสียคอลลาเจน มีดังต่อไปนี้

อายุที่มากขึ้น

ปกติแล้วเมื่ออายุมากขึ้น กระบวนการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิวจะลดน้อยลง ส่งผลให้ผิวหน้าเสื่อมสภาพ และเกิดริ้วรอยได้ง่าย และเพิ่มขึ้นในแต่ละช่วงอายุ ดังต่อไปนี้

  • อายุ 25-30 ปี ร่างกายยังคงผลิตคอลลาเจนได้เป็นปกติ จึงไม่มีปัญหาริ้วรอยให้สังเกตเห็นได้ชัดเจนนัก
  • อายุ 30-40 ปี ริ้วรอยเหี่ยวย่นจะเริ่มปรากฏให้เห็นบริเวณร่องแก้ม ระหว่างคิว รวมถึงมีรูขุมขนกว้าง ฝ้า กระ ร่วมด้วย
  • อายุ 40-50 ปี ร่างกายเริ่มสร้างคอลลาเจนได้ลดน้อยลง ส่งผลให้ริ้วรอยเริ่มปรากฏชัดเจนบนใบหน้า ไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว ขอบตาล่าง และหางตา รวมถึงยังมีกระและฝ้าลึกอีกด้วย
  • อายุ 50-65 ปี คอลลาเจนที่มีอยู่ภายในร่างกายเริ่มเสื่อมสภาพ รวมถึงกระบวนการเสริมสร้างคอลลาเจนก็เสื่อมสภาพไปด้วยเช่นกัน ทำให้เกิดริ้วรอยตามบริเวณต่าง ๆ ที่ชัดยิ่งขึ้น และเชื่อมต่อไปในแนวเดียวกัน
  • อายุ 65 ปีขึ้นไป ปัญหาริ้วรอยจะเริ่มทวีความรุนแรงมากขึ้น และทอดยาวเชื่อมกันทั่วใบหน้า

รังสียูวี

แสงแดดประกอบด้วยรังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet) หรือรังสียูวี (UV) ซึ่งมีอยู่ 2 ชนิดที่ส่งผลต่อผิวโดยตรง คือ

  • รังสียูวีเอ (UVA) คือ รังสีอัลตราไวโอเลตที่มีความยาวคลื่น 320-400 นาโนมิเตอร์ ซึ่งเป็นปัจจัยร้ายที่กระตุ้นทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวเสื่อมสภาพ เนื่องจากส่งผลให้ผิวหนังเหี่ยวย่น เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร
  • รังสียูวีบี (UVB) คือ รังสีอัลตราไวโอเลตที่มีความยาวคลื่น 290-300 นาโนมิเตอร์ ซึ่งถึงแม้จะไม่สามารถทะลุไปยังชั้นผิวที่ลึก จนถึงชั้นคอลลาเจน แต่สามารถทำให้สูญเสียความชุ่มชื้น ผิวเกิดอาการแสบร้อน และไหม้เกรียม

ความเครียด

หากร่างกายมีความเครียดจะทำให้ผลิตฮอร์โมนที่มีชื่อว่า คอร์ติซอล (Cortisol) ออกมา ซึ่งฮอร์โมนชนิดนี้ จะมีส่วนในการทำลายคอลลาเจนบนชั้นผิว และยังลดการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ จึงส่งผลให้ผิวเสื่อมโทรม และเกิดเป็นริ้วรอยก่อนวัยตามมาได้

พักผ่อนน้อย

ในช่วงที่นอนหลับ เป็นเวลาที่ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ ซึ่งรวมถึงการเสริมสร้างคอลลาเจนด้วยเช่นกัน แต่ถ้าไม่ค่อยได้พักผ่อน นอนน้อย ร่างกายก็จะฟื้นฟูได้ลดน้อยลง

การสูบบุหรี่

การสูบบุหรี่ทำให้การไหลเวียนเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงใบหน้าลดน้อยลง ส่งผลให้เซลล์ต่าง ๆ ในชั้นผิวเสื่อมสภาพ อีกทั้งสารต่าง ๆ ในบุหรี่ ยังทำให้คอลลาเจนในชั้นผิวถูกทำลาย กลายเป็นปัญหาผิวเหี่ยวย่น ผิวโทรม ไม่สดใส

ดื่มแอลกอฮอล์

แอลกอฮอล์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กระตุ้นให้คอลลาเจนในชั้นผิวเสื่อมสภาพได้รวดเร็วขึ้น ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่น เกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น

รับประทานอาหารหวาน และน้ำตาลมากเกินไป

การรับประทานอาหารที่มีรสชาติหวาน หรือมีส่วนประกอบของน้ำตาลมากจนเกินไป จะส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง และก่อให้เกิดกระบวนการไกลเคชั่น ที่จะเข้าไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิวให้เสื่อมสภาพ จึงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหน้าเหี่ยวย่น และแก่ก่อนวัย

ใบหน้าของผู้หญิงมีมือที่เตรียมฉีดสารเติมเต็มเข้าสู่ผิว

7 วิธีกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิว

เมื่อรู้ถึงสาเหตุที่ทำให้ใบหน้าเหี่ยวย่นและมีริ้วรอยก่อนวัยกันไปแล้ว เราไปดูวิธีที่จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้ากลับว่าอ่อนวัย กระจ่างใสกันบ้าง โดยที่นิยมทำกันโดยทั่วไป มีดังต่อไปนี้

รับประทานอาหารเพิ่มคอลลาเจน

มาเริ่มกันที่วิธีการเติมคอลลาเจนให้ผิวหน้าง่าย ๆ ที่สามารถทำตามได้เลย คือการเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจน เช่น

  • เนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ที่อุดมไปด้วยโปรตีน ซึ่งเมื่อร่างกายย่อยโปรตีนเหล่านี้แล้ว จะกลายเป็นกรดอะมิโน ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการผลิตคอลลาเจนในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย
  • ถั่วและธัญพืชต่าง ๆ เป็นแหล่งรวมของแร่ธาตุสังกะสี ทองแดง วิตามิน B3 ซึ่งมีส่วนช่วยในการกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอลลาเจนได้ดียิ่งขึ้น
  • ปลาทะเลน้ำลึก ไม่ว่าจะเป็นปลาแซลมอน ปลาทูน่า ล้วนเป็นอาหารที่มีคอลลาเจนสูง และร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ง่ายอีกด้วย
  • ผัก ผลไม้ ที่มีสีแดง สีส้ม และสีเหลือง เช่น มะเขือเทศ บีทรูท พริกหยวกแดง แตงโม แคร์รอต ฟักทอง มันเทศ ข้าวโพด พริกเหลือง มะม่วง แคนตาลูป มะละกอ และสับปะรด เป็นผักผลไม้ที่มีไลโคปีนสูง ซึ่งเป็นสารที่ช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในร่างกาย
  • ผลิตภัณฑ์จากนมถั่วเหลือง มีส่วนช่วยในการเร่งการผลิตคอลลาเจนในชั้นผิว อีกทั้งยังมีไอโซฟลาโวน ซึ่งช่วยต้านสารอนุมูลอิสระ

นอกจากการรับประทานอาหารแล้ว ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม นั่นคือการดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 8-10 แก้ว หรือ 2 ลิตรต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื้น และเสริมสร้างการสังเคราะห์คอลลาเจนในชั้นผิว ซึ่งหากดื่มน้ำได้น้อย ก็จะส่งผลให้คอลลาเจนในชั้นผิวลดน้อยลงด้วยเช่นกัน

ผ่อนคลายความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ

การนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ จะช่วยให้ร่างกายสามารถซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงช่วยลดความเครียด ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว อีกทั้งการได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ยังช่วยให้ผิวได้กลับมายืดหยุ่น และแข็งแรงมากยิ่งขึ้น

ออกกำลังกายสม่ำเสมอ

ในส่วนของการออกกำลังกาย นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนให้ใบหน้าได้ เนื่องจากในระหว่างที่เรากำลังออกกำลังกาย ร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความเครียดลดน้อยลง และยังส่งผลให้โกรทฮอร์โมนถูกหลั่งออกมามากขึ้น ซึ่งจะไปกระตุ้นให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนใหม่ ๆ ช่วยให้ผิวมีความยืดหยุ่น และอ่อนวัยขึ้น

บำรุงผิวด้วยสกินแคร์

อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเติมคอลลาเจนให้ผิวหน้า คือการทาครีมสกินแคร์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยกระตุ้นการเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวดูเรียบเนียนขึ้น แต่การบำรุงด้วยสกินแคร์จะเป็นการฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพในชั้นตื้นเท่านั้น หากต้องการเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว จำเป็นต้องมีการทำหัตถการอื่น ๆ ร่วมด้วย

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่ควรต้องทำเป็นประจำ คือการทาครีมกันแดด เพื่อปกป้องผิวไม่ให้ถูกรังสียูวีทำร้าย และลดการเสื่อมสภาพของคอลลาเจนในชั้นผิวได้เป็นอย่างดี

นวดหน้ากระตุ้นการสร้างคอลลาเจน

การนวดหน้า เป็นวิธีที่ช่วยกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้เป็นอย่างดี ทำให้ผิวพรรณมีความเปล่งปลั่ง สดใส และกระตุ้นให้เกิดการเสริมสร้างคอลลาเจน ช่วยให้ผิวยืดหยุ่นดูอ่อนกว่าวัยได้

ทำหัตถการด้วยเครื่องที่มาพร้อมกับนวัตกรรมฟื้นฟูผิว

สำหรับคนที่ต้องการแก้ปัญหาริ้วรอยและฟื้นฟูผิวให้อ่อนวัยอย่างเห็นผลได้ชัดเจน การทำหัตถการด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย นับเป็นทางเลือกที่ดี โดยมีที่นิยมทำกันดังนี้

  • Ulthera เป็นเทคโนโลยียกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว โดยใช้คลื่นเสียงอัลตราซาวนด์ความถี่สูง (Focused Ultrasound) ผิวจะดูเต่งตึง ยกกระชับ ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยจะดูลดลง
  • HIFU (High Intensity Focused Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิว โดยใช้คลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง เพื่อส่งพลังงานความร้อนลงสู่ชั้นผิวที่ลึก และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้นและริ้วรอยแลดูลดเลือนลง
  • Thermage เป็นเทคโนโลยีคลื่นวิทยุความถี่สูง (Radiofrequency) ยิงเข้าไปในชั้นผิว เพื่อกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ให้ผิวแลดูเต่งตึง ยกกระชับ ริ้วรอยและความหย่อนคล้อยลดลง

ฉีด Sculptra กระตุ้นคอลลาเจนบนใบหน้า

วิธีสุดท้ายที่อยากแนะนำ คือการฉีด Sculptra ซึ่งเป็นสารเติมเต็มชนิดดูดซึมได้ (Dermal Filler) ประกอบด้วยสาร Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ที่เมื่อฉีดเข้าไปแล้วจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ใบหน้าดูอิ่มฟู เต่งตึง ยกกระชับ ริ้วรอยแลดูจางลง

เมื่อรู้วิธีกระตุ้นคอลลาเจนกันไปแล้ว สำหรับคนที่สนใจ สามารถมาบอกลาความเหี่ยวย่น ผิวแก่ก่อนวัยอันควร ได้ที่ Jairuk Clinic ด้วยการฉีด Sculptra ลดริ้วรอย หรือหัตถการอื่น ๆ ที่ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและยกกระชับผิว เราพร้อมดูแลตั้งแต่ขั้นตอนการ Consult ไปจนถึงการทำหัตถการโดยทีมแพทย์ชำนาญการ สนใจนัดหมายปรึกษาแพทย์ได้ที่ โทร : 062-848-7799, 093-636-5153 และ 062-747-1222

ข้อมูลอ้างอิง

หมวดหมู่
เรื่องล่าสุด