นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
วันที่มีผลใช้บังคับ 1 พฤศจิกายน 2565
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ จัดทำขึ้นโดย บริษัท ใจรักษ์ กรุ๊ป จำกัด ดำเนินการโดย ใจรักษ์คลินิกเวชกรรม
- เกี่ยวกับบริษัท
บริษัท ดำเนินธุรกิจผลิตสินค้าภายใต้เครื่องหมาย บริษัท ใจรักษ์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งบริษัทตระหนัก และให้ความสำคัญในเรื่องการป้องกันและเคารพสิทธิข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อเป็นการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (และกฎหมายลำดับรองที่ออกตามกฎหมายดังกล่าวที่เกี่ยวข้อง) (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) ดังนั้น บริษัทจึงมีระบบการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และขั้นตอนการดำเนินงานที่เป็นมาตรฐานสากล เพื่อป้องกันการเข้าถึง เปิดเผย นำไปใช้ หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลโดยมิได้รับอนุญาต
นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ครอบคลุมการให้บริการต่าง ๆ ของบริษัท ทั้งทางเว็บไซต์, แอพพลิเคชั่น, โซเชียลมีเดีย และช่องทางอื่น ๆ แก่ลูกค้า คู่ค้า และผู้มาติดต่อกับบริษัท แต่ไม่รวมถึงพนักงานบริษัท ทั้งนี้ เพื่อปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎหมายหรือเพื่อเป็นการปรับปรุงการให้บริการ บริษัทอาจมีการปรับปรุงแก้ไขนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้เป็นครั้งคราว จึงขอให้ท่านตรวจสอบนโยบายนี้เป็นระยะ ๆ บนเว็บไซต์บริษัท เพื่อที่ท่านจะได้ทราบนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เป็นปัจจุบันของบริษัท
- ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีการเก็บรวบรวม
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ
บริษัทจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นตามวัตถุประสงค์อันชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งบริษัทได้รับข้อมูลจากท่าน ทั้งทางตรงหรือทางอ้อมจากช่องทางต่าง ๆ เช่น ทางอิเล็กทรอนิกส์ เอกสาร ตัวแทนจำหน่าย (retailer) หรือการสอบถามจากหน่วยงานเอกสารหรือราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด
ทั้งนี้ บริษัทอาจเก็บข้อมูลของท่าน เช่น
– ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดินปีเกิด ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล อายุ เลขประจำตัวประชาชน
– ข้อมูลรูปภาพที่สามารถระบุตัวตนได้
– ข้อมูลส่วนบุคคลประเภทข้อมูลอ่อนไหว เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ความพิการ หรือข้อมูลที่ละเอียดอ่อนอื่นใดที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเปิดเผยแก่บริษัทด้วยความสมัครใจเพื่อวัตถุประสงค์ในการเข้าทำสัญญา การปฏิบัติตามสัญญา หรือการให้บริการ ทั้งนี้ บริษัทจะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว เว้นแต่บริษัทได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นตามที่กฎหมายอนุญาตให้ทำได้
ทั้งนี้ กรณีที่บริษัทได้รับข้อมูลอ่อนไหวของท่านโดยไม่ได้ตั้งใจ และไม่มีเจตนาที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลของท่าน บริษัทจะดำเนินการลบข้อมูลดังกล่าวเท่าที่สามารถจะทำได้และจะไม่นำข้อมูลอ่อนไหวของท่านไปใช้เว้นแต่จะได้รับความยินยอมของท่านก่อน
– ข้อมูลทางเทคนิค เช่น การใช้งานและพฤติกรรมการการสืบค้นข้อมูลบนเว็บไซต์ โดยบริษัทมีคุกกี้เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล
– ข้อมูลการตลาดและการสื่อสาร เช่น การสมัครใช้บริการรับข้อมูลข่าวสาร รวมถึงข้อมูลการติดต่อผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย
- บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากแหล่งใดบ้าง
- จากเจ้าของข้อมูลโดยตรง เช่น ข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลกรอกขณะลงทะเบียนสมัครใช้บริการหรือสมัครงาน ข้อมูลที่ใช้ในการสมัครใช้บริการสมาชิก, ข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) หรือข้อมูลที่ผู้ใช้บริการได้แก้ไขปรับปรุงในข้อมูลบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ของผู้ใช้บริการ หรือข้อมูลที่ได้จากการที่ผู้ใช้บริการติดต่อกับบริษัทหรือทีมงานของบริษัท เช่น ตัวแทน หรือข้อมูลที่ได้จากบัญชีผู้ใช้งาน (Account) อื่น ๆ ข้อมูลจากการใช้ผลิตภัณฑ์ และ/หรือบริการของบริษัท การติดต่อ เยี่ยมชม ค้นหา ผ่านเว็บไซต์ Call Center และช่องทางอื่น ๆ ของบริษัท ตลอดจนข้อมูลในการร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในแพลตฟอร์ม, การทำสำรวจ, การทำแบบประเมิน, งานสัมมนาแลช่องทางอื่น ๆ
- เทคโนโลยีการติดตาม (Tracking Technology) เมื่อท่านใช้งานเว็บไซต์ของบริษัท
- กลุ่มบริษัทในเครือ
- บุคคลภายนอก เช่น
- หน่วยงานของรัฐ
- ตัวแทน นายหน้า และคนกลางอื่น ๆ
- พันธมิตรทางธุรกิจ
- โซเชียลมีเดีย แพลตฟอร์ม และผู้ให้บริการโฆษณาต่าง ๆ
ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ในการปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการให้เป็นปัจจุบัน และเพื่อปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์และการให้บริการของบริษัทให้ดียิ่งขึ้น
- การใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีการติดตาม (tracking technologies) อื่น ๆ
บริษัทใช้คุกกี้ (Cookies) และเทคโนโลยีการติดตาม (tracking technologies) อื่น ๆ บนเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น และแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เช่น Google Analytics และ Facebook Conversion Tracking เพื่อช่วยให้บริษัทเก็บข้อมูล เช่น ชนิดของเบราว์เซอร์ เวลาที่ใช้บริการออนไลน์ หน้าที่เข้าชม URL ที่อ้างอิง การตั้งค่าภาษาและข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์อื่น ๆ โดยมีวัตถุประสงค์ด้านความปลอดภัย เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเว็บไซต์ เพื่อการแสดงผลข้อมูลที่มีประสิทธิผลยิ่งขึ้น เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลทางสถิติ และเพื่อพัฒนาประสบการณ์การเข้าชมเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่นให้ตรงตามความต้องการของท่านขณะที่ใช้บริการออนไลน์ กรณีที่บริษัทใช้คุกกี้จำเป็น (Necessary cookies) เพื่อวัตถุประสงค์ข้างต้นไม่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้งานก่อน นอกจากนี้ บริษัทอาจมีการใช้คุกกี้เสริม (Optional cookies) เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้บริษัทสามารถเลือกการโฆษณาหรือข้อเสนอที่ท่านน่าจะสนใจมากที่สุด เพื่อแสดงในขณะที่ท่านใช้บริการออนไลน์หรือ เพื่อส่งอีเมลทางการตลาด และบริษัทยังใช้คุกกี้เพื่อติดตามการตอบสนองต่อโฆษณาออนไลน์และอีเมลทางการตลาด ในกรณีดังกล่าวบริษัทจะขอความยินยอมของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนที่บริษัทจะติดตั้งคุกกี้เสริมใด ๆ บนอุปกรณ์ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลให้ความยินยอมให้บริษัทติดตั้งและใช้คุกกี้เสริม เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลสามารถจัดการเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าของคุกกี้เหล่านี้ได้ตลอดเวลา
- ระยะเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็นเพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ให้เสร็จสิ้น เว้นแต่กรณีที่กฎหมายกำหนดหรืออนุญาตให้เก็บรักษาข้อมูลไว้นานกว่า เช่น ตามอายุความที่กฎหมายกำหนดสำหรับเรื่องที่เกี่ยวข้อง เพื่อการดำเนินคดี หรือเพื่อการตรวจสอบของหน่วยงานที่กำกับดูแล
- วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล
6.1 เพื่อประโยชน์ในการเข้าทำสัญญาหรือปฏิบัติตามสัญญา
- เพื่อประเมินคุณสมบัติในการเข้าทำสัญญากับบริษัท เพื่อปฏิบัติตามสัญญา เช่น สัญญาจ้างแรงงาน สัญญาซื้อขาย หรือสัญญาให้บริการอื่น ๆ กับบริษัท
- เพื่อให้บริการให้ตรงตามความต้องการของท่าน บริษัทจะใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อที่ท่านจะสามารถได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ตรงตามวัตถุประสงค์ของท่านตามสัญญาหรือตามที่ท่านร้องขอ
- การพิจารณาอนุมัติการจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการต่าง ๆ
- การดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการให้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ เช่น การประมวลผล การติดต่อ การแจ้ง การมอบงานให้แก่บุคคลอื่นที่เป็นผู้ให้บริการภายนอก การโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่
หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถเข้าทำ หรือปฏิบัติตามสัญญา รวมถึงไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้
6.2 เพื่อปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
บริษัทมีการเก็บรวบรวม ใช้ และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเช่น ข้อมูลของกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทนของลูกค้านิติบุคคล และบุคคลที่ศาลมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ กฎหมายภาษีอากร กฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน กฎหมายคอมพิวเตอร์ และกฎหมายล้มละลาย เป็นต้น นอกจากนี้ บริษัทมีหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งของหน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมาย รวมถึงบริษัทอาจมีความจำเป็นที่จะต้องให้ความร่วมมือในการให้ข้อมูลแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในต่างประเทศ
หากท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถจัดหาผลิตภัณฑ์และ/หรือให้บริการแก่ท่านได้
6.3 เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท หรือของบุคคลหรือนิติบุคคลอื่น
เช่น
- มาตรการรักษาความปลอดภัย บริษัทมีการบันทึกภาพ CCTV ณ ทางเข้าออกบริษัท
- การรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า เช่น การจัดการข้อร้องเรียน การประเมินความพึงพอใจ การดูแลลูกค้าโดยพนักงานของบริษัท การสื่อสารหรือนำเสนอผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการต่าง ๆ ประเภทเดียวกันกับที่ท่านมีอยู่กับบริษัทซึ่งเป็นประโยชน์กับท่านเป็นระยะ ๆ
- การบริหารความเสี่ยง การกำกับตรวจสอบ การบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงการป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การทุจริต การคุกคามทางไซเบอร์ การฟอกเงิน และกฎหมายอื่น ๆ
- การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
6.4 เพื่อประโยชน์ในการตลาดและปรับปรุงการให้บริการ
บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อประโยชน์ในการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติหรือประชาสัมพันธ์บริษัท เช่น การบันทึกภาพ บันทึกเสียงในการจัดประชุม อบรม สันทนาการ หรือการออกบูธ ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
นอกจากนี้บริษัทมีการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์จากการใช้ผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ ตามที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้ เช่น เพื่อให้ท่านได้รับผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการที่ดียิ่งขึ้นและสอดคล้องกับความต้องการของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับข้อเสนอ สิทธิประโยชน์พิเศษ คำแนะนำ และข่าวสารต่าง ๆ รวมถึงสิทธิในการเข้าร่วมกิจกรรมพิเศษ เป็นต้น ในกรณีที่ท่านปฏิเสธไม่ให้ข้อมูลแก่บริษัท อาจทำให้บริษัทไม่สามารถให้บริการท่านได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
- การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทจะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลต่อบุคคลใดโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อน อย่างไรก็ดี เพื่อประสิทธิภาพในการให้บริการหรือเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเท่าที่จำเป็นต้องเปิดเผยตามกฎหมายให้กับบุคคลต่อไปนี้
- กลุ่มบริษัทในเครือ
- คู่ค้า
- ผู้ให้บริการประมวลผลข้อมูล ทั้งในและต่างประเทศ
- หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย
โดยในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลดังกล่าว บริษัทจะดำเนินการให้บุคคลเหล่านั้นเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไว้เป็นความลับ และไม่นำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้
อย่างไรก็ดี หากท่านเชื่อว่าบุคคลที่บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการตามข้างต้น ได้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นนอกเหนือจากขอบเขตที่บริษัทได้กำหนดไว้ ท่านสามารถแจ้งบริษัทตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนี้ เพื่อดำเนินการในส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
นอกจากนี้ บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น การเปิดเผยข้อมูลต่อหน่วยงานราชการ หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลการให้บริการ หรือหน่วยงานกำกับดูแลผู้ใช้บริการ รวมถึงในกรณีที่มีการร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลโดยอาศัยอำนาจตามกฎหมาย อาทิ การร้องขอข้อมูลเพื่อการฟ้องร้องหรือดำเนินคดีตามกฎหมาย หรือเป็นการร้องขอจากหน่วยงานเอกชน หรือบุคคลภายนอกอื่น ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการทางกฎหมาย รวมถึงในกรณีที่มีความจำเป็นตามสมควรในการบังคับใช้ข้อตกลงและเงื่อนไขการใช้บริการของบริษัท ตลอดจนการเปิดเผยข้อมูลในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมบริษัท หรือการขายกิจการ บริษัทอาจถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ใช้บริการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนที่บริษัทเก็บรวบรวมไว้ไปยังบริษัทที่เกี่ยวข้อง
- สิทธิของท่านในจัดการกับข้อมูลส่วนบุคคล
- ท่านมีสิทธิแก้ไข หรือลบข้อมูลส่วนบุคคล โดยท่านสามารถแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดยการเชื่อมต่อเข้าสู่บัญชีผู้ใช้บริการของท่านด้วยตนเอง หรือร้องขอมายังบริษัทเพื่อดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนั้น ทำขึ้นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัท โดยไม่เกินขอบเขตที่ท่านสามารถคาดหมายได้อย่างสมเหตุสมผล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทฯ สามารถแสดงเหตุผลตามกฎหมายได้ว่ามีความสำคัญยิ่งกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานของท่าน หรือเป็นไปเพื่อการยืนยัน การปฏิบัติตามกฎหมาย หรือการต่อสู้ในการฟ้องร้องตามกฎหมายตามแต่กรณี
- ท่านมีสิทธิขอเข้าถึง และขอสำเนาอิเล็กทรอนิกส์ของข้อมูลส่วนบุคคล การขอให้เปิดเผยและโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังบุคคลอื่นด้วยวิธีการอัตโนมัติ เว้นแต่ไม่สามารถดำเนินการได้เพราะเหตุทางเทคนิคโดยร้องขอมายังบริษัทเพื่อดำเนินการภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- ในกรณีที่ท่านได้ให้ความยินยอมแก่บริษัทเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลหรือกิจกรรมเฉพาะเจาะจงต่าง ๆ ท่านมีสิทธิถอนความยินยอมของท่านได้ทุกเมื่อ ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
- หากท่านเห็นว่าบริษัทจัดการข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยไม่เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
- มาตรการในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยไม่ชอบ
บริษัทจะกำกับดูแลบุคคลอื่นซึ่งบริษัทมอบหมายให้ดำเนินการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลตามคำสั่งหรือในนามของบริษัทให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลอย่างเหมาะสม
- ช่องทางการติดต่อบริษัท
ท่านสามารถขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล หรือกรณีที่มีข้อสงสัยหรือข้อร้องเรียนใด ๆ สามารถติดต่อบริษัทได้ที่ช่องทางต่อไปนี้
บริษัท ใจรักษ์ กรุ๊ป จำกัด (ใจรักษ์คลินิกเวชกรรม)
เกษตรนวมินทร์ ติดโรงเรียนเลิศหล้า ในโครงการ Nirvana@work Tel : 062-8487799
หรือทาง Line : @Jairuk_clinic เวลา 09.00-18.00 น.