ปัญหาใบหน้าหย่อนคล้อย ไม่ได้มีสาเหตุมาจากการสูญเสียคอลลาเจนใต้ผิวหนัง เนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังอาจเกิดจากการที่กล้ามเนื้อบริเวณลำคอทำงานมากเกินไป ทำให้ดึงผิวหน้าลงมามาก จนส่งผลให้ใบหน้าหย่อนคล้อย ซึ่งสามารถแก้ไขได้โดยการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ดังนั้นเพื่อช่วยให้ผู้มีปัญหาใช้ประกอบการตัดสินใจ เราไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ที่ควรรู้ก่อนการฉีดโบลิฟต์กรอบหน้ากันก่อน
โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า คืออะไร ?
การฉีดลิฟต์กรอบหน้า หรือที่นิยมเรียกกันว่า “ลิฟติงหน้า” เป็นอีกหนึ่งบริเวณที่นิยมฉีดโบท็อกซ์มาก เนื่องจากแก้ปัญหาคนที่มีใบหน้าหย่อนคล้อยจากการถูกกล้ามเนื้อบริเวณลำคอดึงผิวลงมา ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าให้ยกกระชับ และเรียวสวยเข้ารูปมากขึ้น
การฉีดกรอบหน้า จะแบ่งเป็น 2 เทคนิค คือ
- Dermolift เป็นการฉีดบริเวณกรอบหน้าขึ้นไปด้านบนเพื่อให้ผิวกระชับมากขึ้น เหมาะสำหรับคนที่ต้องการผลแบบเร่งด่วน แต่ไม่แนะนำให้ทำบ่อย ๆ เพราะเสี่ยงทำให้เกิดอาการดื้อโบท็อกซ์ได้
- Nefertiti Lift เป็นการฉีดโบท็อกซ์ไปที่กล้ามเนื้อบริเวณลำคอที่มีชื่อว่า “Platysma” ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อที่มีส่วนดึงผิวลงมา และทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย ซึ่งการฉีดโบท็อกซ์ไปยังบริเวณนี้ เพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อลง ช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวขึ้น มีแรงดึงมากกว่า และทำให้หน้ายกกระชับขึ้น
ใครบ้างที่ควรฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ?
- คนที่ผิวหน้าเริ่มหย่อนคล้อย
- คนที่มีเหนียงเยอะ คอหย่อน
- คนที่มุมปากตก หน้าบึ้ง
โบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ช่วยอะไร ?
การฉีดโบกรอบหน้า จะช่วยให้บริเวณกรอบหน้าดูชัดขึ้น ใบหน้าจะดูคม แก้ปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย มีเหนียง มุมปากตก หากฉีดร่วมกับโบลดกรามจะช่วยให้หน้าเรียวและมีความคม ไม่ว่าจะถ่ายรูปมุมไหน ก็มีความมั่นใจมากขึ้น
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าใช้กี่ยูนิต ?
โดยปกติแพทย์จะประเมินใบหน้าทุกเคส โดยแต่ละเคสนั้นจะใช้ปริมาณโบท็อกซ์ในการฉีดไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ซึ่งปัจจัยที่ใช้ในการพิจารณา มีดังนี้
- อายุ
- ความหย่อนคล้อย
- ความดื้อโบท็อกซ์
โดยทั่วไปจะใช้โบท็อกซ์อยู่ที่ 30-50 ยูนิต ทั่วกรอบหน้า
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าเห็นผลเลยไหม ?
สำหรับผลลัพธ์ จะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ซึ่งจะเห็นผลประมาณ 3-4 วันหลังฉีด (หากเป็นกลุ่มที่ออกฤทธิ์เร็ว) และจะเห็นผลเต็มที่ภายใน 1-2 สัปดาห์ หรือ 1-3 สัปดาห์ โดยผิวหน้าจะดูกระชับมากขึ้น ตึงมากขึ้น และเห็นกรอบหน้าชัดมากขึ้น
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าอยู่ได้นานไหม ?
การคงอยู่ของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้ฉีด หากลิฟต์กรอบหน้าด้วยเทคนิค Dermolift จะสามารถอยู่ได้นานประมาณ 1-2 เดือน หรือ 3-4 เดือน แต่ถ้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift จะอยู่ได้ 3-4 เดือน หรือ 4-6 เดือน ทั้งนี้ยังขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกซ์ที่เลือกใช้ ความชำนาญของแพทย์ และการดูแลสุขภาพของแต่ละคนด้วย
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าเจ็บหรือไม่ ?
ไม่เจ็บ เพราะทางคลินิกมีการแปะยาชา แต่ในบางกรณีการฉีดโบลิฟต์กรอบหน้าจะค่อนข้างก่อให้เกิดความรู้สึกเจ็บได้เช่นกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับบุคคล เนื่องจากเป็นการฉีดชั้นตื้นมากกว่าการฉีดโบเพื่อลดริ้วรอยหรือลดกราม จึงทำให้มีความรู้สึกมากกว่าการฉีดในส่วนอื่นที่ต้องฉีดบริเวณชั้นกล้ามเนื้อ
ข้อดีของโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า
- ไม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้นไม่นาน
- เห็นผลผลลัพธ์ไว ใช้เวลาฉีดไม่นาน
- แก้ปัญหาได้หลากหลาย เช่น หน้าเรียว ผิวตึง และคมชัด แก้ปัญหาเหนียง มุมปากตก
ฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าที่ไหนดี ?
ในปัจจุบันการฉีดโบท็อกซ์ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จึงทำให้มีโบท็อกซ์ของปลอมระบาดไปทั่วเหมือนกัน ซึ่งโบท็อกซ์ปลอมจะมีบรรจุภัณฑ์และลักษณะที่คล้ายกับของแท้มากจนแทบแยกไม่ออก ด้วยเหตุนี้การเลือกคลินิกฉีดโบท็อกซ์ที่ได้มาตรฐานจึงเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญมาก เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงในการฉีดโบท็อกซ์ปลอมได้มาก โดยวิธีการเลือกคลินิกหรือโรงพยาบาลฉีดกรอบหน้า ควรพิจารณาจาก 5 ปัจจัย ได้แก่
- ผลิตภัณฑ์โบท็อกซ์ใช้ฉีดสามารถตรวจสอบข้อมูลได้จริง มั่นใจว่าเป็นของแท้อย่างแน่นอน และมีการเปิดกล่องใหม่ต่อหน้าของเราก่อนใช้บริการ
- สามารถตรวจสอบประวัติแพทย์ที่ให้บริการผ่านฐานข้อมูลแพทยสภาได้
- สถานที่เข้ารับบริการได้มาตรฐานระดับสากล สะอาด ปลอดภัย มีใบอนุญาตอย่างถูกต้อง
- มีรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง ทั้งภาพรีวิวก่อนทำและหลังทำ
- มีราคาค่าบริการที่เหมาะสม ไม่สูง หรือต่ำกว่าคลินิกและโรงพยาบาลอื่น ๆ มากเกินไป
สำหรับใครที่สนใจฉีดลิฟต์กรอบหน้า หรือฉีดโบท็อกซ์บริเวณอื่น ๆ สามารถเข้ามาขอรับคำปรึกษากับแพทย์ที่ Jairuk clinic ได้เลย เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการฉีดโบท็อกซ์ คอยดูแลทุกเคสด้วยความใส่ใจ จึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับการดูแลที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด
หลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ควรปฏิบัติตัวอย่างไร ?
- งดการกดนวด บริเวณกรอบหน้าที่ฉีดโบท็อกซ์
- งดการทำเลเซอร์ ซาวนด์น่า ทรีตเมนต์ หรือการโดนความร้อนต่าง ๆ บนใบหน้า 2-4 สัปดาห์
- งดดื่มแอลกอฮอล์ 2สัปดาห์
- งดการนอนราบ 3-4 ชั่วโมง หลังฉีดโบท็อกซ์
- ทาครีมกันแดดอยู่เสมอ และพยายามหลีกเลี่ยงแดด
- บริหารกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีด เช่น การเคี้ยวหมากฝรั่ง จะช่วยให้โบท็อกซ์กระจายตัวดีขึ้น
- งดอาหารหมัก ดอง รสจัด รวมถึงชาบู หมูกระทะที่ต้องนั่งอยู่หน้าเตาที่มีความร้อน
รีวิวก่อน-หลังฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า และโบท็อกซ์ลดริ้วรอยที่ Jairuk clinic
สำหรับใครที่สนใจฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้า ฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอย ดูแลโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการยกกระชับ สามารถนัดปรึกษาแพทย์ที่ Jairuk clinic ได้เลย เรามีแพทย์ใจดีพร้อมดูแลด้วยความใส่ใจ หรือจะดูภาพรีวิวก่อน-หลังฉีดลิฟต์กรอบหน้า เพื่อประกอบการตัดสินใจได้ที่ด้านล่างนี้เลย
ทำไมต้องฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าที่ Jairuk clinic ?
ที่ Jairuk clinic เราเลือกใช้โบท็อกซ์ ABO Active 3D Toxin ซึ่งเป็นนวัตกรรมโบท็อกซ์ใหม่ล่าสุดจากประเทศอังกฤษ มีงานวิจัยรองรับว่าสามารถออกฤทธิ์ได้เร็วกว่าโบท็อกซ์ยี่ห้ออื่น ๆ เห็นผลลัพธ์ภายใน 24 ชั่วโมง และมีงานวิจัยโดยแพทย์ผู้มีประสบการณ์จากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ในด้านของการยกกระชับ (Lifting) พร้อมทีมแพทย์ผู้มีประสบการณ์ด้านการฉีดโบท็อกซ์ที่จะคอยดูแลคนไข้ทุกเคสด้วยความใส่ใจ จึงมั่นใจได้ว่าการฉีดโบท็อกซ์ลิฟต์กรอบหน้าจะมอบผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจอย่างแน่นอน