หนึ่งข้อสงสัยที่หลายคนอยากรู้คือ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงจะดี บทความนี้จะทำให้เข้าใจเรื่องปริมาณการฉีดฟิลเลอร์ แนะนำการดูฟิลเลอร์แท้สำหรับฉีดเนื้อเยื่อใต้ดวงตาอีกด้วย เพราะบริเวณใต้ตามีความบางกว่าบริเวณอื่น ๆ จึงต้องอาศัยหมอผู้เชี่ยวชาญมาดูแลเป็นพิเศษ และนอกจากปริมาณฟิลเลอร์ที่สงสัยแล้ว ยังมีเรื่องอื่น ๆ ที่ควรรู้อีกด้วย จะมีอะไรกันบ้างนั้นตามมาดูกันเลย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรใช้กี่ CC
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงจะดี โดยปกติแล้วปริมาณของฟิลเลอร์กี่ CC ถึงจะพอดีก็ขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน เพราะแต่ละปัญหานั้นจะใช้ปริมาณ CC ที่แตกต่างกันไป การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาส่วนใหญ่จะใช้เพียงแค่ 1-2 CC แต่หากเป็นคนไข้อายุเยอะ หรือมีปัญหาขอบตาลึกจนเกินไป ซึ่งอาจเกิดจากกระดูกใต้ตายุบ ก็ต้องพิจารณาเป็นเคสพิเศษไป
แบรนด์ฟิลเลอร์ใต้ตาที่แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ
ด้วยความที่ผิวหนังใต้ตามีความบางมาก จึงมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ดังนั้นตัวฟิลเลอร์จะต้องได้รับมาตรฐาน ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม อย่าเลือกแบบแข็งไม่งั้นดูไม่เป็นธรรมชาติ แบรนด์ฟิลเลอร์ที่แนะนำคือ Restylane และ juvederm ฉีดแล้วคงรูปสวยฟูอย่างเป็นธรรมชาติ
ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่อาจพอได้
ผลข้างเคียงที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เช่น มีอาการบวมแดง เขียวช้ำ อาการบวมเข็ม และอาจมีอาการคันด้วย เป็นต้น เนื่องจากเนื้อเยื่อบริเวณใต้ตามีความบางกว่าบริเวณอื่น ดังนั้นอาการเหล่านี้จึงเป็นเรื่องปกติ และดูแลกันได้ง่าย ๆ แค่ระมัดระวังการขยับของใบหน้า และห้ามเอามือไปแตะหรือจับบริเวณใต้ตา โดยรายละเอียดผลข้างเคียงมีดังต่อไปนี้
ฉีดแล้วเป็นก้อนที่ใต้ตา
ปัญหาของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน ทำให้ดูไม่เป็นธรรมชาติ โดยเฉพาะตอนยิ้มจะเห็นได้ชัดเจน ซึ่งเกิดจากเทคนิคของการฉีดที่ตื้นเกินไป ทำให้ฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อนในบริเวณที่ไม่เหมาะสม โดยหมอผู้เชี่ยวชาญจะฉีดลงในชั้นผิวที่อยู่นิ่ง ไม่ใช่ฉีดที่กล้ามเนื้อ ซึ่งค่อนข้างต้องใช้ความชำนาญและเวลาพอสมควรในการฉีดบริเวณใต้ตา
อย่างไรก็ตามเคสที่ฉีดมาแล้วเป็นก้อน ก็ยังสามารถแก้ไขได้โดยการใช้สารเอนไซม์ไฮยาลูโรนิเดสฉีดสลายฟิลเลอร์ เมื่อทำการฉีดสลายแล้ว จะยังสามารถฉีดเพื่อแก้อีกครั้งได้ แต่การฉีดสลายฟิลเลอร์จะใช้ได้กับฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แล้วเกิดการจับตัวเป็นก้อน ต้องทำการขูดหรืออาจผ่าตัดออก ทั้งนี้ต้องพิจารณาตามเคสไป
มีอาการบวมเข็ม
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วจะยังคงไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนทันที เพราะจะเกิดอาการบวมเข็มก่อน ต้องหายบวมเต็มที่ก่อนประมาณ 14 วัน จึงจะเห็นผลที่ชัดเจน
สรุป ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้กี่ CC ให้ดูธรรมชาติ ?
การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในปริมาณ CC ที่พอเหมาะนั้น ปัจจัยหลักขึ้นอยู่กับแต่ละเคสคนไข้ว่าจะ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ CC ถึงจะดี นอกจากนี้ควรศึกข้อมูลให้ละเอียดก่อนตัดสินใจฉีด เนื่องจากเนื้อเยื่อใต้ตามีความบางกว่าจุดอื่น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดที่แก้ไขได้ยากภายหลัง ที่สำคัญคือ ความเชี่ยวชาญของหมอกับตัวฟีลเลอร์แท้ที่ได้รับมาตรฐาน เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง เพื่อผลลัพธ์ที่สวยงามเป็นธรรมชาติและปลอดภัยมากที่สุด