เมื่อเราอายุเพิ่มมากขึ้น ปัญหาผิวต่าง ๆ ก็เริ่มตามมา ทั้งผิวไม่เต่งตึง ผิวหย่อนคล้อย มีไขมันส่วนเกินบนใบหน้า และมีเหนียง จนทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเหมือนเดิม แต่ถ้าจะให้ไปผ่าตัดดึงหน้าก็กลัวเจ็บตัว หรือไม่มีเวลาพักฟื้น แต่ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป เพราะ Thermage FLX สามารถจบทุกปัญหาผิวได้
สำหรับใครที่อยากทำ Thermage แต่ยังไม่รู้ว่า Thermage คืออะไร? มีหลักการทำงานอย่างไร? เทอร์มาจราคาเท่าไร? Thermage ราคาแพงไหม? สามารถหาคำตอบได้ที่บทความนี้เลย เพราะเราได้รวบรวมทุกข้อมูลที่ควรรู้เกี่ยวกับการทำเทอร์มาจมาให้แล้ว
Thermage คืออะไร? เทอร์มาจราคาเท่าไร? ทำไมต้องทำที่ใจรักษ์คลินิก
การทำ Thermage คือ การยกกระชับผิว สลายไขมันใต้ชั้นผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ด้วยคลื่นวิทยุ ซึ่งสามารถทำได้ทั้งบริเวณใบหน้า ลำคอ ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง นับเป็นหนึ่งในเทคโนโลยียกกระชับผิวที่ได้รับการยอมรับในคนทั่วโลก
การทำเทอร์มาจจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนภายใน 2 เดือน และอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี ซึ่งการทำเทอร์มาจราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 – 100,000 บาท ต่อการ 1 ครั้ง ขึ้นอยู่กับบริเวณที่ต้องการทำ จำนวนช็อตที่ต้องใช้ และรุ่นของเครื่องที่ใช้
หากใครอย่างทราบราคาแน่นอน สามารถเข้ามาปรึกษาคุณหมอที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย โดยคุณหมอจะตรวจสภาพผิว วางแผนรักษาที่เหมาะสม และประเมินราคาค่าใช้จ่ายที่แน่นอนให้ คุณหมอของเราพร้อมดูแลคนไข้ทุกเคสด้วยความใส่ใจ รับรองว่าจะได้รับผลการรักษาที่พึงพอใจ ด้วย Thermage ราคาคุ้มค่าที่สุดอย่างแน่นอน
รีวิวยกกระชับผิวหน้า ลดริ้วรอย ด้วย Thermage ราคาคุ้มค่า ที่ใจรักษ์คลินิก
เลือกอ่านหัวข้อที่สนใจเกี่ยวกับการทำ Thermage
Thermage คืออะไร?
Thermage คือ เทคโนโลยียกกระชับผิว กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และสลายไขมันส่วนเกินใต้ชั้นผิว โดยการปล่อยคลื่นวิทยุลงไปสร้างความร้อนที่ใต้ชั้นผิว ซึ่งสามารถปล่อยพลังงานลงลึกได้ถึง 3 ชั้น ได้แก่ ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน
Thermage นั้น สามารถลงไปสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใบหน้าในชั้นไขมัน ทำให้กระชับ เต่งตึง ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นหนังแท้ และสามารถฟื้นฟูผิวหนังกำพร้าให้รูขุมขนเล็กลงและเรียบเนียนได้ด้วย ซึ่งเครื่องมืออื่น ๆ จะไม่สามารถทำได้แบบนี้
ในปัจจุบัน Thermage ถือได้ว่านวัตกรรมยกกระชับผิวที่ดีที่สุด และได้รับการรับรองมาตรฐานจาก US-FDA ประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ได้รับความนิยมจากคนทั่วโลก การันตีด้วยสถิติต่าง ๆ เหล่านี้
- 2,000,000 คนทั่วโลกไว้วางใจ
- 95% พอใจผลการรักษา
- 70 สิทธิบัตรนวัตกรรม
- 50 งานวิจัยรองรับทั่วโลก
ดังนั้นคนที่มีปัญหาหน้ามีไขมันส่วนเกินเยอะ มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยที่เกิดจากอายุ หรือมีปัญหาริ้วรอยบนใบหน้าและความหย่อนคล้อยบนใบหน้าจากการสูญเสียคอลลาเจน จึงเหมาะสำหรับการใช้ Thermage มาแก้ปัญหานั่นเอง
Thermage ทำงานอย่างไร?
หลักการทำงานของ Thermage คือ จะปล่อยพลังงานคลื่นความถี่วิทยุชนิดขั้วเดียว (Monopolar RF) ลงสู่ใต้ผิวหนังในชั้นหนังแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน (Subcutaneous fat) เพื่อสร้างความร้อน ซึ่งจะช่วยสลายไขมันส่วนเกิน และกระตุ้นให้คอลลาเจนเกิดการหดตัว จัดเรียงโมเลกุลของคอลลาเจนใหม่ พร้อมกับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนภายใน 1 เดือน ช่วยให้ผิวแน่นและกระชับขึ้น
Thermage นั้นจะมีเทคโนโลยี AccuREP ที่ช่วยให้การปล่อยพลังงานมีความแม่นยำ เสถียร และมีความปลอดภัยมากขึ้น สามารถปรับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวแบบ Real-time เพื่อการสร้างผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุก ๆ ช็อตของการทำงาน
นอกจากนี้ Thermage ยังมีระบบ Cooling พร้อมทั้งระบบสั่นที่ออกแบบมาให้อ่อนโยนและผ่อนคลายต่อผิวในขณะทำ ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้ารับบริการไม่รู้สึกเจ็บปวดด้วย
Thermage ทำบริเวณไหนได้บ้าง?
Thermage สามารถทำได้ 2 บริเวณหลัก ๆ ได้แก่ ใบหน้า บริเวณลำตัว และรอบดวงตา มีรายละเอียดดังนี้
1. ใบหน้า
- สามารถช่วยลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่นบริเวณใบหน้าและหน้าผาก
- สามารถลดริ้วรอยบริเวณรอบปาก ให้กระชับเรียบเนียนขึ้น
- สามารถยกกระชับและสลายไขมันได้ทั้งใบหน้าและลำคอ
- สามารถยกกระชับลำคอหย่อนคล้อยเล็กน้อย แก้มห้อย ผิวใต้คางหย่อนคล้อย หรือมีเหนียงได้ ช่วยปรับรูปหน้าและกรอบหน้าให้ชัดมากขึ้น
2. บริเวณลำตัว
สามารถช่วยลดเซลลูไลท์ ลดผิวเปลือกส้ม ลดรอยย่น และผิวที่หย่อนคล้อยได้ในบางจุด เช่น ต้นแขน หน้าท้อง สะโพก หลังมือ หรือต้นขา ซึ่งจะช่วยผิวกระชับและเรียบเนียนมากขึ้น โดยที่ไม่ต้องผ่าตัดทำศัลยกรรม
Thermage มีกี่รุ่น?
นับตั้งแต่ปี 2013 เครื่องเทอร์มาจมีทั้งหมด 4 รุ่น ดังนี้
- Thermage TX (2003)
- Thermage NXT (2007)
- Thermage CPT (2009)
- Thermage FLX (2018)
Thermage FLX ดีกว่ารุ่นเก่าอย่างไร?
Thermage FLX เป็นเครื่องเทอร์มาจรุ่นล่าสุดที่สามารถปล่อยพลังงานได้ลึกกว่า เร็วกว่า สบายกว่า เจ็บน้อยกว่า และปลอดภัยกว่า โดยมีจุดเด่นดังนี้
- หัวใหม่จะปล่อยพลังงานที่ดีกว่า เห็นผลการรักษาที่เร็วและมากกว่าเดิม เนื่องจากมีการปรับพลังงานให้เหมาะสมกับสภาพผิวของแต่ละบุคคลแบบ Real-Time ทำให้ปล่อยพลังงานได้เที่ยงตรงแม่นยำมากขึ้น
- เจ็บน้อยกว่า ด้วยระบบหัวสั่นแบบนุ่มนวลและหลายทิศทาง
- ใช้เวลาในการทำเร็วขึ้นกว่าเดิมด้วยหัว Tips รุ่นใหม่สีม่วง และยังสามารถปล่อยพลังงานลงได้ลึกกว่าเดิมอีกด้วย
- มีเซนเซอร์อัจฉริยะ สามารถตรวจจับทุกบริเวณผิวว่าร้อนไปไหม (เสี่ยงผลข้างเคียง) เย็นไปไหม (ไม่ได้ผลเท่าที่ควร) หรือแนบหัวไม่สนิทพลังงานก็จะไม่ออกมา ทำให้การรักษาปลอดภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ที่มาของ Thermage FLX เป็นอย่างไร?
Thermage FLX มาจากคุณสมบัติที่เหนือกว่าเดิม ดังนี้
- Faster เร็วกว่าเดิม 25% : The Thermage FLXM หัว Tip 4.0 ได้ถูกพัฒนาให้สามารถปล่อยพลังงานความร้อนได้ด้วยประสิทธิภาพที่ดีขึ้น เมื่อเทียบกับหัวทิปรุ่น 3.0 เดิม และ 25% การทำทรีทเมนท์ใช้เวลาน้อยลง
- aLgorithm แม่นยำมากขึ้น : Thermage FLXm system ใช้เทคโนโลยี AccuREP ที่สามารถวัดและปรับพลังงานแบบ Real-time ส่งผลให้การปล่อยพลังงานลงชั้นผิวหนังมีแม่นยำและได้ประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ช็อตของการทำงาน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดในแต่ละบุคคล
- eXperience เจ็บน้อยลง : ประสบการณ์การรักษาที่สบายกว่า การปล่อย Cooling ที่มีประสิทธิภาพ และระบบสั่นของหัวทิปที่ออกแบบ ทุกทิศทาง นุ่มนวล อ่อนโยน ทำให้ผ่อนคลายมากขึ้น
ข้อดีของ Thermage FLX เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอื่น ๆ
การทำเทอร์มาจมีข้อดีหลายอย่าง เช่น
- หลังทำใช้ชีวิตได้ตามปกติ ไม่ต้องพักฟื้น
- ไม่มีแผล ทำให้หน้าไม่เพี้ยน
- รักษาลงลึกได้ทุกชั้นผิว จนสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้
- เห็นผลหลังทำ 20 % และจะเห็นผลชัดเจนเต็มที่ 2-3 เดือน
- ใช้เวลาทำ เพียง 40-90 นาที
- ทำได้หลายจุดบนร่างกาย ทั้งใบหน้าและลำตัว
- เห็นผลยาวนาน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการบำรุงดูแลผิวของแต่ละคน
นอกจากจากนี้เทอร์มาจยังมีข้อดีแตกต่างจากเทคโนโลยีอื่น ๆ ด้วย เช่น
- แตกต่างจากการดึงหน้าด้วยการผ่าตัด เพราะการผ่าตัดทำให้มีใบหน้าที่ผิดเพี้ยนไปไม่เหมือนเดิมและส่วนมากต้องใช้เวลาในการพักรักษาตัวนาน
- แตกต่างจากการร้อยไหม เพราะการทำเทอร์มาจไม่ได้มีการใส่สารใด ๆ เข้าไปสู่ผิวหน้า และให้ผลแบบธรรมชาติ ไม่ต้องกังวลกับปัญหาผิวย่นแบบไม่ธรรมชาติ หรือใบหน้าผิดรูปที่อาจเกิดจากการร้อยไหม
- แตกต่างจากเครื่องยกกระชับอย่างอื่น เพราะให้ผลการรักษาอยู่ได้นานถึง 1 ปีต่อการ 1 ครั้ง ไม่ต้องทำบ่อย ๆ มีงานวิจัยรองรับมากมาย และมี US FDA รับรองด้านประสิทธิภาพในการยกกระชับและความปลอดภัยอีกด้วย
Thermage FLX เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่ต้องการให้ผิวหน้า และลำคอยกกระชับ
- ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียว วีเชฟ
- ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเหนียง รอยเหี่ยวย่น รวมถึงมีไขมันสะสมบริเวณแก้มและคาง
- ผู้ที่มีปัญหาผิวไม่เรียบเนียน เต่งตึง หย่อนคล้อย ดูแก่กว่าวัย
Thermage FLX ไม่เหมาะสำหรับใคร?
- ผู้ที่ต้องใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าที่หัวใจ
- ผู้ที่ตั้งครรภ์
- ผู้ที่คุณภาพผิวไม่ดี ผิวเสื่อมสภาพจากแสงแดด หรืออีลาสตินของผิวเสื่อมสภาพรุนแรง
- ผู้ที่มีการตอบสนองของเชลล์ Fibroblast & Elastin ไม่ดี
- ผู้ที่มีประวัติการใช้ยากลุ่ม NSAIDS หรือ Corticosteroids มานาน
Thermage FLXราคาเท่าไร
- ทั่วใบหน้าและเหนียงแนะนำที่ 600-900 ช๊อต ราคาThermage อยู่ที่ประมาณ 60000-120000 บาท
ขั้นตอนการทำ Thermage FLX
การทำ Thermage FLX นั้น แพทย์จะทำการประเมินสภาพผิวและวางแผนการรักษาอย่างละเอียดก่อน หลังจากนั้นจึงเริ่มทำการแก้ปัญหาผิวด้วยเทอร์มาจ โดยมี 3 ขั้นตอนดังนี้
- ทำความสะอาดในบริเวณที่ต้องการจะทำ
- ทายาชาเพื่อลดอาการเจ็บปวดระหว่างทำ
- ยิงกระตุ้นด้วยเทอร์มาจด้วยการนำหัวเครื่องมาแนบกับพื้นผิวบริเวณที่ต้องการ และยิงตามจำนวน Shot ที่ประเมินไว้ โดยระยะเวลาการรักษาจะขึ้นอยู่กับตำแหน่งที่ต้องการยิง ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 30 – 90 นาที
วิธีดูแลตัวเองหลังทำ Thermage FLX
การทำ Thermage ไม่ต้องพักฟื้นและรักษาตัวเอง รวมถึงไม่มีข้อระวังเป็นพิเศษ แต่สิ่งที่อยากแนะนำคือการไม่ทำให้สภาพผิวกลับไปเป็นปัญหาเหมือนก่อนการทำ โดยมีข้อที่อยากแนะนำให้ปฏิบัติ ดังนี้
- พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายอย่างเสมอ
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมหรือสิ่งที่ส่งผลให้เกิดภาวะความเครียด เพื่อให้ผิวดูเต่งตึงและกระชับเหมือนเดิม
- ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อย่างน้อยวันละ 2 – 3 ลิตร เพื่อให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- หลีกเลี่ยงการทำทรีทเมนท์ ขัดผิว หรือทำเลเซอร์ ภายในระยะเวลาประมาณ 2 สัปดาห์
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ก่อให้เกิดอาการผิวหย่อนคล้อย ไม่เต่งตึง เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการโดนแสงแดด
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ของ Thermage
การทำเทอร์มาจมีความปลอดภัยสูง ไม่ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อร่างกายและบริเวณที่ทำ แต่หลังจากทำเทอร์มาจแล้วอาจเกิดรอยแดงได้ ซึ่งจะหายได้เองภายในระยะเวลา 1 – 2 ชั่วโมง หรือเกิดอาการบวมได้ ซึ่งจะหายได้เองภายใน 3 – 5 วัน
อย่างไรก็ตาม ในคนที่ทำเทอร์มาจแล้วเกิดอาการผิวขรุขระ ผิวเป็นรอยบุ๋ม ไม่เรียบเนียน หรือหน้าไหม้ เกิดรอยดำ ใบหน้าเสียทรง อาจเกิดจากการรักษาด้วยเครื่องเทอร์มาจปลอมที่ไม่ได้มาตรฐาน จึงต้องศึกษาข้อมูลและประวัติคลินิกให้ดีก่อนเข้ารักษา
เปรียบเทียบ Thermage FLX กับ RF ทั่วไป แตกต่างกันอย่างไร?
เทอร์มาจทำงานด้วยเทคโนโลยีพิเศษ โดยการส่งผ่านพลังงานความร้อนผ่านคลื่นวิทยุ แบบ Monopolar RF ซึ่งสามารถส่งคลื่นลึกได้ลงถึงชั้นไขมัน และผิวชั้นลึก ซึ่งต่างจากคลื่นวิทยุทั่วไป (Bipolar)
Monopolar RF นั้น สามารถลงลึกและทั่วถึงมากกว่า จึงสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวตึงแน่นขึ้นและสลายไขมัน ทำให้การรักษาเพียงครั้งเดียวสามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดยจะเห็นผลหลังทำทันที 30 – 40% และชัดขึ้นใน 2 เดือน ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์สูงสุดในเดือนที่ 6
เปรียบเทียบ Thermage FLX กับ Thermage CPT แตกต่างกันอย่างไร?
- FLX ปล่อยพลังงานที่ดีกว่า CPT
- FLX เจ็บน้อยกว่า ด้วยระบบหัวสั่นแบบนุ่มนวลและหลายทิศทาง
- FLX ใช้เวลาในการทำเร็วขึ้นและปล่อยพลังงานได้ลงลึกกว่า CPT
- FLX มีเซนเซอร์อัจฉริยะตรวจจับทุกบริเวณผิว
เปรียบเทียบ Thermage FLX กับ Ultraformer III แตกต่างกันอย่างไร?
Thermage FLX นั้น จะใช้คลื่นวิทยุในการสร้างความร้อนใต้ชั้นผิว สามารถออกฤทธิ์ในส่วนของชั้นไขมันและชั้นผิวทุกชั้นใต้ผิวหนัง ส่งผลให้ผิวดูเนียน ดูอ่อนยาว และแน่นขึ้น สามารถกระชับเหนียง แก้ปัญหาใบหน้าอ้วน มีไขมันบริเวณแก้ม ยกกระชับ และเก็บหน้าได้ดีกว่า Ultraformer III
ในขณะที่ Ultraformer III จะใช้คลื่นอัลตราซาวด์ในการสร้างความร้อนใต้ชั้นผิว สามารถลงไปแก้ปัญหาได้ทุกระดับชั้นเช่นกัน แต่จะเน้นในส่วนของยกกระชับ ปรับใบหน้าให้ได้รูปทรง และผลที่ตามมาจะมีส่วนช่วยให้ริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้าตื้นขึ้นและมีคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมเท่า Thermage FLX ที่จะยิงทุกอณูในชั้นผิวตั้งแต่ 0 – 4.3 mm.
อย่างไรก็ตาม ทั้ง Thermage FLX และ Ultraformer III สามารถทำควบคู่ไปด้วยกันได้ หากมีไขมันบนใบหน้ามากให้เริ่มจากการทำเทอร์มาจก่อน เพราะเทอร์มาจเหมาะสำหรับคนที่มีไขมันมาก เมื่อโหลดไขมันแล้ว สามารถทำ Ultraformer III เพื่อให้การยกกระชับใบหน้ามีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งนี้ควรปรึกษาแพทย์ผู้มีประสบการณ์ในการเว้นระยะอย่างเหมาะสมก่อน เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เปรียบเทียบ Thermage FLX ร้อยไหม และฉีดโบท็อก ควรยกกระชับหน้าด้วยวิธีไหนดี?
การทำหัตถการเพื่อยกกระชับใบหน้า จะต้องให้แพทย์ผู้มีประสบการณ์วิเคราะห์ใบหน้าก่อน เพื่อเลือกบริการที่เหมาะสมกับใบหน้า ยกตัวอย่างเช่น
- กรณีใบหน้ามีจำนวนกล้ามเนื้อมาก ทำให้ใบหน้าดูอวบ กรามใหญ่ จึงต้องทำให้กล้ามเนื้อหยุดทำงานก่อน คุณหมอจะรักษาเบื้องต้นด้วยการฉีดโบท็อก เพื่อหยุดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณกราม หรือบริเวณต่างๆบนใบหน้า
- หากใบหน้ามีความหย่อนคล้อยมาก คุณหมอจะแนะนำให้ทำการร้อยไหม เพื่อยกกระชับใบหน้าได้อย่างตรงจุด โดยสามารถร้อยไหมได้ทั้งในบริเวณแก้ม และเหนียง บางกรณีจะมีอาการแก้มห้อยเนื่องจากมีการฉีดโบท็อก ก็สามารถร้อยใหม่ควบคู่กันไปด้วยได้ นอกจากนี้การร้อยไหมยังช่วยแก้ปัญหาโหนกแก้มสูง และโหนกแก้มใหญ่ได้อีกด้วย
- Thermage FLX เป็นการยกกระชับใบหน้าพร้อมทั้งสลายไขมันไปในตัวซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีมาก พร้อมสร้างคอลลาเจนให้ผิวได้อีกด้วย พร้อมทั้งยังเน้นในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอย
ดังนั้นหากต้องเลือกระหว่าง Thermage FLX ร้อยไหม และโบท็อก ใจรักษ์คลินิกขอแนะนำให้ปรึกษาคุณหมอเบื้องต้น เพื่อให้คุณหมอประเมิน และรักษาได้อย่างตรงจุด ในบางกรณีอาจจะมีการทำควบคู่กันไปด้วยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่พึงพอใจ โดยที่ใจรักษ์คลินิก มีคุณหมอนิ้ง ผู้มีประสบการณ์ด้านการปรับรูปหน้าคอยให้คำปรึกษา ในเรื่องของการปรับรูปหน้าได้เป็นอย่างดี
รวมคำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำ Thermage
เพื่อให้คุณเข้าใจการทำเทอร์มาจมากยิ่งขึ้น เราได้รวบรวมคำถามและคำตอบที่พบบ่อยเกี่ยวกับการทำเทอร์มาจมาให้แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ผลลัพธ์ของการทำเทอร์มาจ Thermage ราคาเท่าไร เทอร์มาจราคาแพงไหม เจ็บไหม ใครที่มีข้อสงสัย สามารถดูคำถามและคำตอบได้ที่นี่เลย
1. Thermage FLX กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานแค่ไหน?
การทำ Thermage FLX จะเห็นผลทันทีหลังทำ โดยผลลัพธ์จะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ ภายใน 2 – 3 เดือน และจะคงอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี ขึ้นอยู่กับการดูแลและสภาพผิวของผู้ที่รับการรักษา หากอยากให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานจะต้องทำตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด และไม่ทำกิจกรรมที่ทำให้เกิดความหย่อนคล้อย และริ้วรอย
2. Thermage FLX ทำซ้ำได้ไหม?
ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยปกติสามารถกลับมาทำซ้ำได้ทุก ๆ 3 เดือนถึง 1 ปีเพื่อให้ผลลัพธ์อยู่คงสภาพที่สุด และเห็นผลลัพธ์ดีขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้ตรงกับความพึงพอใจ
3. ทำ Thermage FLX เจ็บไหม?
Thermage FLX เป็นรุ่นที่เจ็บน้อยที่สุด เพราะมีเทคโนโลยีที่ช่วยลดความรู้สึกเจ็บขณะทำ โดยคนไข้จะรู้สึกอุ่น ๆ สบายหน้า ในระหว่างรักษา อีกทั้งยังมีการทายาชาเพื่อลดอาการเจ็บก่อนทำด้วย ซึ่งผู้ที่เข้ามารักษาบางท่านหลังจากที่ Mask ยาชาไปแล้วจะไม่มีอาการเจ็บเลย
4. ทำ Thermage ราคาเท่าไร?
ราคาของการทำเทอร์มาจจะขึ้นอยู่กับปัญหาของแต่ละคน จำนวนช็อตที่ใช้ และรุ่นของเครื่องเทอร์มาจ โดยเทอร์มาจราคาเริ่มต้นประมาณ 65,000- 120,000 บาทต่อการทำ 1 ครั้ง
5. ทำ Thermage FLX ที่ไหนดี?
การเลือกทำ Thermage FLX จะต้องพิจารณาหลายประการ เพราะปัจจุบันมีการใช้เครื่องThermage FLX ปลอม เป็นจำนวนมาก ควรเลือกคลินิกที่ให้บริการ ด้วยราคาที่สมเหตุสมผล ไม่ถูกจนเกินไป เลือกคลินิกมีความน่าเชื่อถือ แพทย์มีความชำนาญ และมีใบรับรอง
หากไม่มีการศึกษาข้อมูลคลินิกที่ดีแล้ว จะทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ตามมามากมาย จากการใช้Thermage FLX ปลอม เช่น ผิวขรุขระ ไม่สม่ำเสมอ ผิวมีรอยบุ๋ม ใบหน้าไหม้ มีรอยดำ เป็นต้น
สำหรับใครที่สนใจทำ Thermage FLX สามารถมาทำที่ใจรักษ์คลินิกได้เลย เพราะคุณหมอจะรักษาคนไข้ด้วยตัวเองทุกเคส เพื่อควบคุมคุณภาพการรักษา และมีเทคนิคเฉพาะตัว
นอกจากนี้ ใจรักษ์คลินิกยังใช้เครื่อง Thermage ของแท้จาก USA รุ่นใหม่ล่าสุดอย่างThermage FLX พร้อมหัว Tips หัวสีม่วงรุ่นใหม่ที่สามารถกระจายพลังงานได้ดีและลงลึกกว่ารุ่นเก่า มีระบบสั่นรอบหลายทิศทาง เจ็บน้อยลง และจากประสบการณ์พบว่าเห็นผลการรักษาที่ดีขึ้นกว่าเดิม
สำหรับใครที่กลัวเจ็บ ไม่ต้องกลัวเลย เพราะในระหว่างการรักษา คุณหมอจะมีการปรับระดับพลังงานให้เหมาะสมกับความรับได้ของคนไข้แต่ละคน เพื่อให้คนไข้ได้รับประสบการณ์รักษาที่ดีที่สุด และหลังจากรักษาไปแล้ว เรามีการติดตามผลระยะยาว คนไข้มีอะไรต้องการซักถาม หรือปรึกษาก็สามารถปรึกษากับหมอได้โดยตรงตลอดเวลา โดยไม่ต้องผ่านพนักงาน รับรองได้ว่าจะได้รับการดูแลรักษาที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน
6. คนหน้าตอบและหย่อนคล้อย แต่มีไขมันบริเวณใบหน้าน้อย สามารถทำ Thermage FLX ได้ไหม?
ถึงแม้ว่า Thermage FLX จะช่วยในเรื่องยกกระชับใบหน้า กระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนได้ แต่ Thermage FLX จะเหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันอยู่ในชั้นผิวผสมค่อนข้างมาก ไม่เหมาะสำหรับคนที่แก้มตอบ มีไขมันสะสมน้อย หรือไม่มีไขมันสะสม
สรุปเรื่องการทำ Thermage คืออะไร? เทอร์มาจราคาเท่าไร?
จะเห็นได้ว่า Thermage คือ เทคโนโลยีที่ช่วยในการยกกระชับผิวและสลายไขมันที่มีประสิทธิภาพมาก ใครที่มีไขมันอยู่ในชั้นผิวผสมค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณใบหน้า ลำคอ ต้นแขน ต้นขา หรือหน้าท้อง แล้วต้องการยกกระชับผิวให้กระชับมากขึ้น แน่นขึ้น หรือสลายเซลลูไลท์และผิวเปลือกส้มเพื่อให้ดูเรียบเนียนขึ้น ก็สามารถแก้ปัญหาด้วยเทอร์มาจได้เลย โดย Thermage ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 15,000 – 30,000 บาท และถึงแม้ว่าเทอร์มาจราคาค่ารักษาจะค่อนข้างสูง แต่มั่นใจได้เลยว่า คุณจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพถึงพอใจและคุ้มค่ามากที่สุดแน่นอน เพราะการทำเทอร์มาจ 1 ครั้งสามารถอยู่ได้นาน 1 – 2 ปีเลยทีเดียว